ทุกส่วนในบล็อกนี้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อุทิศแล้วเพื่อปวงชน. Powered by Blogger.
RSS

พลังขั้วบวกแห่งดาวไซย่า จะฟื้นคืนสนามพลังแม่เหล็กโลกได้หรือไม่?

สวัสดีครับ ทุกท่าน ขณะนี้โลกของท่านกำลังได้รับ "พลังจักรวาลจำนวนมาก" ทว่า มันมีทั้งด้านดีและเสียเหมือนกันคือพลังบางอย่าง ก็ดี เหมาะสมแต่พลังบางอย่างอาจเป็นภัยต่อมนุษย์ที่ยังไม่พร้อมดังนั้น "สนามพลังแม่เหล็กโลก" จะช่วยปกป้องสิ่งมีชีวิตได้ในกรณีนี้ และเป็นเหตุให้ "ชาวไซย่า" ถูกเชิญให้มาปฏิบัติภารกิจที่สำคัญครั้งนี้ด้วย แต่ไม่ใช่เขาเท่านั้นที่จะสามารถทำได้ อย่างไร ลองมาดูครับ


"พลังสนามแม่เหล็กโลกใหม่" ที่ร่วมสร้างโดยชาวไซย่าและดาวมฤตยู


อย่างแรกที่ท่านต้องเข้าใจใหม่กับโลกนี้คือ มนุษย์ยุคปัจจุบันตัวเล็กมากและไม่อาจรับพลังที่มากเกินไปได้ ดังนั้น มนุษย์ยุคนี้จึงต่างจากยุคต้นๆ ที่สร้างโลก ในยุคต้นๆ ที่สร้างโลกนั้น มนุษย์ตัวใหญ่มาก และพวกเขาก็มีผลต่อการสร้างโลกในด้านต่างๆ เอาละ ในเมื่อยุคนี้ถึงเวลาในการสร้างโลกใหม่อีกครั้ง ดังนั้น มนุษย์ตัวเล็ก มีพลังไม่พอ จึงต้อง "ประสานพลังร่วมกับแหล่งพลังงานอื่นๆ ในจักรวาล" เพื่อปฏิบัติภารกิจนี้ให้สำเร็จ ซึ่งหนึ่งในภารกิจนั้น ก็คือ การสร้างสนามพลังแม่เหล็กโลกใหม่ ซึ่งจะต้องใช้พลังจากแหล่งพลังงานสองแห่งคือ "ดาวไซย่า (พลังบวก) และดาวมฤตยู (พลังลบ)" เพื่อสร้างสนามพลังแม่เหล็กโลก ที่หนาแน่นกว่าเดิมจึงจะรองรับ "พลังงานใหม่ หนาแน่นมากกว่าเดิม" ที่พุ่งตรงมาสู่โลกได้และในกระบวนการนี้ จะต้องอาศัยพลังของชาวต่างดาว สองดาวร่วมกันคือ 1. ดาวไซย่า (พลังขั้วบวก) และ 2. ดาวมฤตยู (พลังขั้วลบ) ในปีนี้พวกเขาจะต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ เพราะสิ่งนี้ได้ดำเนินการมานานแล้ว



"พลังขั้วบวกและพลังขั้วลบ" ที่กำหนดได้ด้วย "พลังจิต" ของมนุษย์?


อย่างที่สองคือ มนุษย์ในยุคแรกๆ ก็ใช้ "พลังจิต" นั่นแหละ สร้างโลกใน "ระดับองค์รวม" เช่น การปรับสภาพดิน น้ำ ลม ไฟ องค์รวมพร้อมกันทั้งโลก ก็เคยทำมาแล้ว ทว่า "มนุษย์ยุคปัจจุบัน" จะสร้างโลกใน "ส่วนเล็กที่ละเอียดลงไป" ดังนั้น มนุษย์ยุคปัจจุบัน จึงเกิดมาตัวเล็กมาก แต่ไม่ว่าจะเป็นยุคไหน มนุษย์ก็สร้างโลกโดยใช้ "พลังจิต" เป็นจุดเริ่มต้น ทั้งสิ้นเอาละ เข้าสู่เนื้อหาของเราที่ว่า เราจะสร้างพลังขั้วบวกและลบอย่างไร? ง่ายๆ เลยครับ พลังขั้วบวกก็คือพลังจิตที่เป็นด้านบวก อันเกิดขึ้นจากจิตที่ดีงาม, ผ่องใส, มองโลกในแง่ดี ฯลฯ ส่วนพลังจิตด้านลบ ก็มาจากจิตที่หม่นหมอง, วิตกกังวล, หวาดกลัว, โกรธแค้น, มองโลก ด้านลบ ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ "สามารถสร้างหรือเหนี่ยวนำได้" จากคนที่มีพลังจิตขั้วใดขั้วหนึ่ง สามารถเหนี่ยวนำให้คนอื่นๆ คล้อยตามทางบวก หรือทางลบ ก็ได้ครับ เพราะมันคือ "พลังต้นกำเนิดของสนามแม่เหล็ก" ดังนั้น มันจึงมีคุณสมบัติในการ "ดึงดูดและเหนี่ยวนำ" ขั้นสูง ยกตัวอย่างเช่น คนที่ใช้พลังด้านลบ อาจเหนี่ยวนำจิตใจให้ผู้คนรู้สึกลบตามไปได้มากมาย แต่ว่าคนที่มีพลังด้านบวก ก็สามารถเหนี่ยวนำให้คนทั้งหลาย มีพลังด้านบวก! ทว่า ต้องบอกก่อนว่า "มันไม่ใช่การคิดหรือจินตนาการ" แต่มันเป็นความจริงของพลังจิตจากข้างในของคุณ เช่น ถ้าคุณต้องการมองโลกด้านดี ก็ไม่ใช่ให้ไปนั่งคิดหรือปรุงแต่งว่านั่นก็ดี นี่ก็ดี หรอกนะ แต่มันมาจากจิตที่ดีผ่องใส มองเห็นโลกด้านที่ดี ซึ่งมันเป็นความจริงที่มีอยู่แล้วโดยไม่ต้องคิดต่างหาก เอาละ หวังว่าท่านคงแยกแยะได้ระหว่าง มุมมอง และการคิด นะ



"พลังจิตที่ใช้ในด้านการดึงดูดเหนี่ยวนำ" มีสามรูปแบบ ดังต่อไปนี้


ต่อไป ท่านต้องเข้าใจพื้นฐานของพลังงานต่างๆ ว่ามีมากมายหลายรูปแบบ แต่ถ้าเราแยกแยะพลังงานในแบบ "ขั้ว" ต่างๆ เราจะได้พลังงานเป็น 3 แบบ คือ พลังขั้วบวก, พลังขั้วลบและพลังไร้ขั้ว (เป็นกลางหรือศูนย์) ซึ่งพลังงานทั้งสามชนิดมีหน้าที่ต่างกัน เมื่อทำหน้าที่ร่วมกันได้ดีก็จะเกิดประโยชน์มาก เช่น พลังขั้วบวกและขั้วลบ ถ้าลัดวงจร ก็จะเกิด"การช็อต" และทำให้เกิดผลกระทบด้านลบมากมายแต่ถ้าการไหลเวียนของประจุไฟฟ้าทั้งสองขั้ว ไปในทางที่ไม่ลัดวงจร ไม่ปะทะกัน ก็จะทำให้เกิด "สนามพลังแม่เหล็ก" ได้ ซึ่งสิ่งนี้จะต้องอาศัย "พลังจิตของมนุษย์ทั้งหลายร่วมกันทำขึ้น" เหมือนกับการขับเคลื่อนระบบทุนนิยม ก็ใช้พลังความเชื่อมั่นในการขับเคลื่อนสำเร็จมาแล้ว เช่นกัน สิ่งนี้ ก็ต้องอาศัยพลังจิตของมนุษย์มากมายร่วมกันสร้างขึ้นมา ไม่อาจจะสำเร็จได้ด้วยคนหนึ่งคนใด ได้ ดังนั้น ขอสรุปดังนี้ จะมี "ร่างสังขารมนุษย์" 3 ร่างทำภารกิจนี้ร่วมกัน 1. คือ ร่างของดาวมฤตยู (ขั้วลบ) 2. คือ ร่างของชาวดาวไซย่า(ขั้วบวก) และ 3. คือ ร่างของพระบิดาจักรวาล (ไร้ขั้ว) ซึ่ง ร่างที่สามนี้จะเป็นผู้ "จัดวงจรและการไหลเวียนของกระแสประจุไฟฟ้าทั้งสองขั้ว" ก็จะสำเร็จเป็นสนามพลังแม่เหล็กโลกใหม่ที่หนาแน่นกว่าเดิมได้ภายในปีนี้



การใช้ "พลังจิตขั้วลบ" เพื่อเสริมพลังของ HAARP โดยดาวมฤตยู


ในระหว่างการเตรียมสังขารสั้งสาม เพื่อรองรับพลังจักรวาลทั้งสามนั้นดาวมฤตยูจะสำเร็จก่อน เขาจะใช้พลังจิตด้านลบของผู้คน เพื่อทำให้มี "ภัยพิบัติ" เกิดขึ้น และทำให้ผู้คนตกใจ แตกตื่น และหวาดกลัว เต็มไปด้วยพลังจิตภาคลบ ซึ่งเป็นต้นแหล่งพลังงานของเขา แล้วเขาจึงจะดูดซับพลังจิตด้านลบของผู้คนไป ทำให้ผู้คนอ่อนแอลง หมดพลัง หมดแรงหมดกำลังใจไปเรื่อยๆ แต่เขาจะมีพละกำลังกล้าแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะทำภารกิจของเขาให้สำเร็จ คือ "สร้างโลกให้มีอนาคตที่มืดมน" และเขาจะได้เป็นใหญ่ เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ครองโลก เอาละ เขาเป็นของเขาเช่นนี้เอง ไม่ได้เลวร้าย หรือดีงาม ไม่ใช่ความถูกต้อง หรือความผิดประการใดมันเป็นธรรมชาติของดาวมฤตยูนะ อย่างหนึ่งที่อยากจะบอกท่านคือ พลังที่ใช้สร้างภัยพิบัติในโลกด้วยเครื่องมือปัจจุบันนั้น "มันมีพลังไม่พอ" ที่จะใช้เป็นอาวุธในสงครามหรอก ถ้าจะให้มันมีพลังพอ จะต้องสร้างให้เครื่องมีขนาดใหญ่มาก และใช้พลังงานเยอะมาก ซึ่งมันจะใช้ในกรณีการรบซึ่งหน้าหรือเปิดเผย ดังนั้น การแอบใช้เครื่อง HAARP ในขณะนี้นั้น จึงต้องอาศัยพลังจิตด้านลบของมนุษย์ "เสริมพลังมันด้วย" อย่างไรหรือ? อาทิเช่น ใช้จิตวิทยาการสื่อสาร ไปเผยแพร่คำทำนายว่าจะเกิดภัยพิบัติเช่นนี้จะเกิดแผ่นดินไหวอย่างนั้น เป็นต้น แล้วก็ใช้เครื่อง HAARP กระตุ้นให้มีแผ่นดินไหวจริงๆ ซึ่งเครื่องมีขีดจำกัดในการทำงานอยู่ มีพลังจำกัด ก็จะสร้างแผ่นดินไหวได้เพียง 1-2 ริกเตอร์ เป็นต้น ซึ่งไม่มีปัญหาอะไรเลยที่จะดำรงชีวิตตามปกติของมนุษย์ ทว่า เพราะพลังจิตด้านลบและพลังแห่งความเชื่อด้านลบนั้นๆ เอง เสริมกำลังให้แผ่นดินไหวได้ถึง 6-9 ริกเตอร์ทีเดียว แต่ถ้าเมื่อใดผู้คนไม่เสริมพลังจิตด้านลบให้ มันก็จะมีพลังไม่มากนัก



ถึงเวลาแล้วที่ "นักรบแห่งจักรวาล" จะถือกำเนิดรวมร่างกับชาวไซย่า !


เพื่อให้ภารกิจการสร้าง "สนามแม่เหล็กโลก" ใหม่ ของพระบิดาจักรวาลสำเร็จลุล่วงไปได้ เราจำเป็นต้องหา "ร่างสังขารของพระบิดาจักรวาลและชาวไซย่า" เพื่อทำภารกิจร่วมกันให้สำเร็จลุล่วงไปให้ได้ เอาละ สำหรับร่างของพระบิดาจักรวาล จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง "ไร้ขั้ว" และไม่มีการแบ่งพรรค แบ่งพวก เด็ดขาด เพราะนี่คือ "พลังสายตรงต่อพระบิดาจักรวาล" ผู้โอบอุ้มทุกสรรพสิ่งในจักรวาลนี้ แต่สำหรับ "ร่างสังขารของชาวไซย่า" แล้ว เขาจะต้องมีพลังจิตด้านบวกเสมอ เขาจะต้องผ่องใส ร่าเริงมองโลกในแง่ดี และทัศนคติเชิงบวกตลอดเวลา เพราะมันสำคัญมากในช่วงเวลาที่โลกเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่นี้ เอาละ เราหวังว่าในนี้จะมีท่านสักคนที่จะสามารถ "เข้าร่วมกับภารกิจแห่งจักรวาล" นี้ได้กับเรา เพราะสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก นานมากทีเดียว เกินกว่าที่ท่านจะจินตนาการได้เลยละ กว่าที่จะมีการสร้างโลกใหม่แบบนี้ขึ้นอีกครั้ง เราจึงหวังว่าท่านจะร่วมเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ให้แก่โลกใบนี้ของท่านเอง เพราะท่านเองนั่นแหละ ที่รอเวลานี้มานานแสนนานแล้ว



"ความเชื่อที่คุณเลือกได้" ระหว่างอุ้ยเสี่ยวป้อขี้โม้ที่อารมณ์ดี กับ ...


เอาละ มีคำถามคำถามหนึ่ง อยากทดสอบใจคุณให้ลองไปคิดดูนะครับถ้ามีคนสองคน คนหนึ่งเหมือนอุ้ยเสี่ยวป้อ เปลือกนอกเหมือนคนขี้โม้ที่ไม่มีหลักการอะไรเลย แต่อารมณ์ดี และมองโลกในด้านดีเสมอ และคนอีกคนหนึ่ง เปลือกนอกเป็นนักวิชาการ และเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยามากน่าเชื่อถือมาก แต่เขากำลังพยายามเหนี่ยวนำคุณให้คิดไปทางลบเสมอเอาละ "คุณจะเลือกเชื่อใคร?" มันก็เป็นสิทธิ์ของคุณ และเรายินดีเสมอไม่ว่าคุณจะเลือกเชื่ออย่างไร? เพราะอะไรละ? เพราะมันจำเป็นต้องมีคนที่มองโลกแง่บวก และแง่ลบ อยู่ร่วมกันในโลกนี้ไงละ เราจึงจะใช้พลังคนเหล่านั้น "สร้างสนามพลังแม่เหล็กโลก" ขึ้นมาได้ ดังนั้น ไม่มีใครผิดนะและไม่มีใครเป็นมาตรฐานของความถูกต้องได้ ทุกคนเลือกทางเดินของตนเอง คุณมีสิทธิ์เลือกได้ และเมื่อคุณเลือกแล้ว ก็ต้องมีความพร้อมรับผิดชอบต่อผลของการเลือกของคุณด้วย ยืดอกรับผลของมันซะ เพราะนั่นคือ"สิ่งที่คุณเลือกเอง" ความเชื่อมันอยู่ในใจของคุณไม่มีใครมาบังคับใจคุณให้คุณเชื่อหรือไม่เชื่ออะไรได้หรอก ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับ "คุณเลือกเอง"



"วังวนหายนะ" พลังแห่งดาวมฤตยู ที่จะดึงดูดพลังด้านลบของมนุษย์


เอาละ ลองมาดูการทำงานของดาวมฤตยูบ้าง เขาทำงานได้อย่างไร? ง่ายๆ นะ เขาจะสร้างสถานการณ์บีบให้คนตกอยู่ในวังวนที่มืดมน แก้ไม่ได้ ไขไม่ออก และต้องกระทบกระทั่งกัน ทำให้เกิดพลังงานด้านลบมากๆ แล้วเขาก็จะ "ดูดซับพลังด้านลบไปหมด" ท่านก็จะโล่งอกโล่งใจ เหมือนหายเครียดได้พักหนึ่ง ทว่า "ท่านจะหมดกำลังใจ เหี่ยวแห้งลงเรื่อยๆ" ท่านจะกลายเป็นเพียง "เครื่องจักรผลิตพลังงานด้านลบให้กับเขาเท่านั้น" ท่านก็จะถูกดึงเข้าวังวน รอบแล้วรอบเล่า ที่ท่านคิดเชิงลบและผลิตพลังงานเชิงลบป้อนให้เขาเรื่อยๆ เขาจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ (พร้อมๆ กับชาวไซย่าที่จะพัฒนาตนเองขึ้นเช่นกัน) จนท่านที่เคยมีพลังจิตมาก จะสูญสิ้นพลังจิตไปจนหมด เขาจะรวบรวมพลังจิตของคนไปทำ "ภัยพิบัติ" ให้เกิดขึ้นตามคำทำนายของเขา เพื่อให้คนยิ่งมี "พลังความเชื่อด้านลบ" มากยิ่งขึ้นเพื่อจะ "หมุนวน วังวนหายนะ" (สวัสดิกะ) ของเขาให้หมุนรอบต่อไป ยิ่งๆ ขึ้ไป รอบแล้ว รอบเล่า ไม่มีที่สิ้นสุด จากการใช้คำทำนายไปสู่การสร้างภัยพิบัติจริง รอบที่หนึ่ง ไปรอบที่สอง ซ้ำๆ ยิ่งคนยิ่งเชื่อ เขายิ่งได้พลัง และมันก็ยิ่งเกิดขึ้นจริง เขาก็ยิ่งได้รับการเชื่อถือไปใหญ่ มันก็ยิ่งเกิดขึ้นไปใหญ่ เอาละ อย่าลืมละว่าเขาไม่ได้ผิดอะไร หรือดีหรือชั่วอะไร ไม่ใช่ความถูกต้องอะไรด้วย เขาแค่มาทำหน้าที่ตามธรรมะธรรมชาติของเขา ก็เท่านั้น อย่าเพิ่งไปมีทัศนคติเชิงลบหรือบวกเข้าละ



สุดท้ายนี้ พลังแห่งขั้วบวก และพลังแห่งขั้วลบ มีความแตกต่างกันแบบสุดขั้วเลยทีเดียว ในขณะที่ศูนย์กลางแห่งพลังขั้วลบจะ "ดึงดูดพลังลบ" เข้าไปที่ศูนย์กลางของมัน ทว่า พลังแห่งขั้วบวกจะ "แผ่พลังเชิงบวก" ออกมาโดยรอบ ทำให้เกิดกระแสพลังงานไฟฟ้าจาก "ขั้วบวกไปขั้วลบ" ก็จะไม่เกิดการลัดวงจร และเมื่อมีการไหลเวียนอย่างเป็นระบบถูกต้องดีแล้ว ก็จะเกิด "สนามพลังแม่เหล็กโลก" ใหม่ ที่หนาแน่นขึ้นกว่าเดิมได้ซึ่งมันจะเป็นเช่นนั้นได้ เราจะต้องทำภารกิจของเราให้สำเร็จด้วย เพราะถ้าเราล้มเหลว ก็หมายถึง "ภัยพิบัติของโลก" จะตามมาอีกมากมาย ทีเดียว เอาละ เราหวังว่าท่านจะร่วมมือกับเราในการทำภารกิจในครั้งนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีนะ มาเถิด มาสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ร่วมกับเรา


ขอ พลังแห่งขั้วบวกจงปัดเป่าความคิดเชิงลบของท่านออกไป สวัสดี ...



6 มิ.ย. 2555


"เสียงจากสภาฯ"
รับสื่อสารโดย


瑠璃王





  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 comments:

Post a Comment