มอรมอน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มอรมอน (อังกฤษ: Mormon) เป็นอีกชื่อหนึ่งซึ่งผู้คนทั่วไปรู้จักของศาสนาคริสต์ สายของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย สำนักงานใหญ่ของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ตั้งอยู่ที่รัฐยูทาห์ประเทศสหรัฐอเมริกา
ส่วนคำว่า "มอรมอน" เป็นชื่อเล่นอีกชื่อหนึ่งซึ่งผู้คนมักจะเรียกชาวมอรมอน ซึ่งชื่อนี้มาจาก ชื่อของพระคัมภีร์สำคัญเล่มหนึ่ง ที่มีชื่อว่าพระคัมภีร์มอรมอนซึ่งเป็นพันธสัญญาอีกเล่มหนึ่งของพระเยซูคริสต์ จึงเป็นที่มาของผู้คนทั่วไปที่ได้รู้จักกับชาวมอรมอน จึงได้เรียกวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ว่าชาวมอรมอนนั่นเอง
ส่วนมากคนที่เป็นสมาชิกของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย พวกเขาจะเรียกตัวเองว่า "วิสุทธิชน" หรือว่า ชาวมอรมอน
[แก้]หลักความเชื่อ
หลักแห่งความเชื่อของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย
เราเชื่อในพระผู้เป็นเจ้า, พระบิดานิรันดร์, และในพระบุตรของพระองค์, พระเยซูคริสต์, และในพระวิญญาณบริสุทธิ์.
เราเชื่อว่ามนุษย์ จะได้รับโทษเพราะบาปของตน, และมิใช่เพราะการล่วงละเมิดของอาดัม.
เราเชื่อว่าโดยผ่านการชดใช้ของพระคริสต์, มนุษยชาติทั้งมวลจะรอดได้, โดยการเชื่อฟังกฎและศาสนพิธีทั้งหลายของพระกิตติคุณ.
เราเชื่อว่าหลักธรรมและศาสนพิธี เบื้องต้นของพระกิตติคุณคือ: หนึ่ง, ศรัทธาในพระเจ้า พระเยซูคริสต์; สอง, การกลับใจ; สาม, บัพติศมาโดยลงไปในน้ำทั้งตัวเพื่อการปลดบาป สี่, การวางมือเพื่อของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์.
เราเชื่อว่ามนุษย์ต้องได้รับการเรียกจากพระผู้เป็นเจ้า, โดยการพยากรณ์, และโดยการวางมือโดยผู้มีสิทธิอำนาจ, เพื่อสั่งสอนพระกิตติคุณและปฏิบัติศาสนพิธีของพระกิตติคุณนั้น.
เราเชื่อในการวางระเบียบกอย่างเดียวกับที่ดำรงอยู่ในศาสนจักรสมัยต้น, นั่นคือ, อัครสาวก, ศาสดาพยากรณ์, ศิษยาภิบาล, ผู้สอน, ผู้ประกาศข่าวประเสริฐ, และอื่น ๆ.
เราเชื่อในของประทานแห่งการพูดภาษา, การพยากรณ์, การเปิดเผย, นิมิต, การบำบัดรักษา, การแปลภาษา, และอื่น ๆ.
เราเชื่อว่าพระคัมภีร์ไบเบิลเป็นพระคำของพระผู้เป็นเจ้าตราบเท่าที่แปลไว้อย่างถูกต้อง; เราเชื่อด้วยว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นพระคำของพระผู้เป็นเจ้า.
เราเชื่อทุกสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยมาแล้ว, ทุกสิ่งที่พระองค์ทรงเปิดเผยขณะนี้, และเราเชื่อว่าพระองค์จะยังทรงเปิดเผยเรื่องสำคัญและยิ่งใหญ่อีกหลายเรื่องเกี่ยวกับอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า.
เราเชื่อในการรวมกันอย่างเป็นรูปธรรมของอิสราเอลและในการนำกลับคืนมาของเผ่าทั้งสิบ; ว่าไซอัน (เยรูซาเล็มใหม่) จะสร้างขึ้นในทวีปอเมริกา; ว่าพระคริสต์จะทรงปกครองงแผ่นดินโลกด้วยพระองค์เอง; และ, ว่าแผ่นดินโลกจะกลับคืนสู่สภาพเดิมและรับรัศมีภาพแห่งเมืองบรมสุขเกษม.
เราอ้างเอกสิทธิ์แห่งการนมัสการพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพตามการวินิจฉัยจากมโนธรรมของเราเอง, และยอมให้มนุษย์ทั้งปวงมีเอกสิทธิ์เช่นเดียวกัน, ให้พวกเขานมัสการโดยวิธีใด, ณ สถานที่ใด, หรือสิ่งใดก็ได้ที่พวกเขาจะนมัสการ.
เราเชื่อในการอยู่ใต้อาณัติของกษัตริย์, ประธานาธิบดี, ผู้ปกครอง, และฝ่ายปกครองของรัฐ, ในการเชื่อฟัง, การยกย่อง, และการสนับสนุนกฎหมาย.
เราเชื่อในการเป็นคนซื่อสัตย์, แน่วแน่, บริสุทธิ์, มีเมตตา, มีคุณธรรม, และในการทำคดีต่อมนุษย์ทั้งปวง; โดยแท้แล้ว, เราอาจกล่าวได้ว่าเราทำตามคำแนะนำของเปาโล—เราเชื่อทุกสิ่ง, เราหวังทุกสิ่ง, เรายืนหยัดมาแล้วหลายสิ่ง, และหวังว่าจะสามารถยืนหยัดได้ทุกสิ่ง. หากมีสิ่งใดที่เป็นคุณธรรม, งดงาม, หรือกล่าวขวัญกันว่าดี หรือควรค่าแก่การสรรเสริญ, เราแสวงหาสิ่งเหล่านี้.
สำนักงานในประเทศไทย
สำนักงานศูนย์บริการประเทศไทยปัจจุบันตั้งอยู่ที่ 1645/6 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
1 comments:
แนวคิดสำคัญของมอร์มอนก็คือ "พระวัจนะของพระเจ้า" ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าพระเจ้าได้กล่าวผ่านสิ่งต่างๆ (เช่น คนหรือคัมภีร์) ทั้งในอดีต, ปัจจับัน และอนาคต ไม่ใช่แต่เพียงในคัมภีร์ไบเบิลเท่านั้น และแน่นอนรวมทั้งใน "คัมภีร์มอร์มอน" ด้วย ซึ่งพวกเขายอมรับและเชื่อว่ามาจากพระวัจนะ
จุดนี้เองคือ ข้อขัดแย้งกับคนที่อยู่ในลัทธิอื่นๆ อย่างชัดเจนครับ เพราะพวกเขาไม่เชื่อเรื่องนี้ พวกอื่นจะเชื่อว่าไม่มีพระวัจนะใดอื่นอีก นอกจากพระคัมภีร์ไบเบิลที่ได้รับการยอมรับเชื่อถือได้ตามหลักการของพวกเขาครับ เป็นการปิดประตูตาย ไม่ให้ใครแอบอ้างเอาพระวัจนะของพระเจ้า มาทำให้คนเชื่อ แล้วแอบเขียนคัมภีร์ตามใจตัวเอง อะไรประมาณนั้น ซึ่งจุดนี้ ขัดแย้งกับความคิดของลัทธิมอร์มอน อย่างมากครับ
ดังนั้น จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า "แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรมาจากพระวัจนะของพระเจ้าจริงๆ" หรือมันเ็ป็นการแอบอ้างของใครบางคน ที่อ้างว่าได้รับพระวัจนะมาจากพระเจ้า แล้วก็แอบเขียนคัมภีร์ขึ้นมาเองตามใจชอบหรือไม่?
ทางมอร์มอน ก็ตอบว่า "ต้องเปิดใจ ใช้ใจสัมผัสเอา" ครับ แต่พวกอื่นจะปิดแคบ ปิดประตูตาย ปิดใจไปเลย ว่าไม่เอา ไม่เชื่อ ไม่จริง เพราะใครจะไปรู้ได้ หรือตัดสินได้ละ? ถ้าเกิดเราหลอกตัวเองขึ้นมาละ? ถ้าเป็นเำพราะความหลง เป็นอุปทานขึ้นมาละ? จะทำอย่างไร? ในขณะที่พวกมอร์มอนก็จะบอกว่า "คนเราทุกคนมีสิทธิื์ที่จะเชื่อในพระเจ้า อย่างเสรีตามแบบของเขา" และเราก็ควรเคารพในสิทธิ์ในการเชื่อในพระเจ้า ของคนอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าเขาจะทำพิธีกรรมแปลกๆ อะไร เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเชื่อ เชื่อว่าเขากำลังบูชาพระเจ้าอะไร ก็ไม่ผิด (ในมุมมองของมอร์มอนครับ) ในขณะที่พวกอื่น มองว่า "ไม่ได้" ถ้าทำอะไรนอกรีต, นอกลู่, นอกทาง ฯลฯ ครับ
สรุปว่า มอร์มอน จะเปิดกว้างเสรีกว่า ในขณะที่กลุ่มเก่าจะอนุรักษนิยม
และปิดประตูตาย ไม่ยอมเปิดใจรับอะไรที่แปลกออกไปจากเดิมครับ
Post a Comment