ทุกส่วนในบล็อกนี้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อุทิศแล้วเพื่อปวงชน. Powered by Blogger.
RSS

"พลังงานคลาสสิค" อีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้คุณมีพลังพิเศษและความยั่งยืน!

สวัสดีครับ ผมคิดว่าเรื่อง "พลังคลาสสิค" เป็นเรื่องใหม่ ที่พวกเราน่าจะมาศึกษาร่วมกันนะครับ ดังที่ท่านได้ทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่าพลังงานที่ขับเคลื่อนโลกใบนี้อยู่ มีทั้ง พลังงานใหม่, พลังงานเก่า และพลังคลาสสิค เพื่อให้ท่านเข้าใจที่มาและที่ไปของพลังงานคลาสสิคให้มากขึ้น


เรามาคุญกันง่ายๆ สบายๆ กันดีกว่าครับ



พลังงานใหม่ยังอยู่ในกระบวนการทดลอง แต่พลังคลาสสิคสอบผ่านแล้ว


พลังงานต่างๆ ที่เข้ามายังโลกใบนี้ จะต้องผ่านการ "คัดสรร" โดยไกอาผู้เป็นจิตวิญญาณประจำดาวเคราะห์โลก ผู้ดูแลโลกนี้ด้วย เพื่อไม่ให้พลังงานบางชนิด กลายเป็นภัยต่อสิ่งที่อยู่บนโลกใบนี้ ทว่า มันจะต้องผ่านการ "ทดลองใช้" เสียก่อน จึงจะทราบได้ว่า มันเข้ากับโลกและสิ่งต่างๆ หรือควรได้รับการส่งเสริมให้ใช้ในการขับเคลื่อนโลกต่อไปหรือไม่? อาทิเช่น พลังงานเก่าบางชนิด ผ่านการทดสอบให้ใช้ได้ในโลกก็จริง ทว่า เมื่อหมดวาระของมัน ก็จะต้อง "เลิกใช้" เหมือนกัน ดังนั้น โลกจึงต้องหาพลังงานใหม่ๆ มาทดแทนพลังงานเก่าที่ถูกเลิกใช้ไปนั้น พลังงานใหม่จึงเข้ามาทำหน้าที่แทน และอยู่ใน "กระบวนการทดลอง" ดังนั้น พวกเขาที่ใช้หรือได้รับพลังงานใหม่ จึงมีลักษณะ "ลองผิด-ลองถูก" อยู่ในตัวด้วย มันยังไม่ลงตัวกับโลกมากนัก เพราะ "มันใหม่เกินไป" นั่นเอง แต่สำหรับพลังงานคลาสสิคแล้ว "มันผ่านการทดสอบและยังใช้ได้อีกนาน" ทีเดียว มันจึงมีความยั่งยืนมากกว่า นี่จึงเป็นข้อดีและเป็นเอกลักษณ์ ของพลังคลาสสิค



พลังงานเก่า, พลังงานใหม่ และพลังคลาสสิค ก็มีทั้งพลังมืดและสว่าง?


เราไม่อาจเหมารวมได้ว่าพลังงานเก่าจะต้องเป็นพลังภาคมืดเสมอไปและพลังงานใหม่ ก็ใช่ว่าจะต้องเป็นพลังภาคสว่าง เท่านั้น ก็หาไม่ พลังงานเก่าบางกลุ่ม ก็เป็นพลังภาคสว่าง แต่เพราะหมดวาระหน้าที่แล้ว จึงต้องปลดประจำการณ์ จึงกลายเป็นพลังงานเก่าไป ส่วนพลังงานใหม่ บางทีก็เป็นพลังงานภาคมืดก็มี เช่น คนที่มีพลังงานภาคสว่างบางคน อาจเดินพลาดแล้วเข้าทางมืด พลังงานภายในของเขา มืดดำลง แล้วก่อให้เกิดพลังงานภาคมืด ซึ่งเกิดใหม่ กลายเป็นพลังงานใหม่ (ภาคมืด) ที่จะมาทำหน้าที่แทนพลังงานภาคมืด ซึ่งเป็นพลังงานเก่า ที่หมดวาระแล้ว ก็ได้ดังนั้น บางคนอาจมีพลังงานมืดมาก่อน แล้วชำระล้างจนกลายเป็นพลังงานใหม่ที่สว่างไสว ก็ได้, ในขณะที่บางคนอาจมีพลังงานสว่างมาก่อนทว่า เดินพลาดหลงทาง ทำให้เกิดเป็นพลังงานมืด "กลุ่มพลังงานใหม่" ขึ้นมาก็ได้ เช่นกัน พลังงานคลาสสิคก็มีทั้งที่เป็นกลุ่มพลังงานภาคสว่างและภาคมืด นั่นคือ ภาคมืดและภาคสว่าง ที่ทำหน้าที่มานานแล้ว และยังคงต้องทำหน้าที่ต่อไปอีก ยังไม่ถึงวาระที่จะได้รับการชำระล้างฯ นั่นเอง



การกำเนิดพลังงานในโลก 3 แบบ ส่งผลให้เกิดพลังงานที่แตกต่างกัน?


ต้นกำเนิดของพลังงานต่างๆ บนโลกนั้น มีได้ 3 รูปแบบใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้

1. กำเนิดจากมิติที่สูงขึ้น : คือ มิติที่สูงขึ้นได้ส่งพลังงานนั้นลงมายังโลกเพื่อช่วย "ขับเคลื่อนโลก" ให้ดีขึ้น เลื่อนระดับโลกให้สูงขึ้น เช่น การจุติลงมาของสิ่งศักดิสิทธิ์เบื้องบน ก็จะนำพลังงานจาก มิติที่สูงขึ้น มาด้วยซึ่งยังสามารถแบ่งได้เป็นสองกลุ่ม คือ พลังภาคมืดและภาคสว่าง ดังนี้

1.1) พลังงานภาคสว่าง : เกิดจากพลังงานที่สว่างไสว ลงมายังพื้นโลกเช่น พลังงานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับอนุญาติให้ลงมาทำหน้าที่ดูแลโลก


1.2) พลงงานภาคมืด : เกิดจากพลังงานภาคสว่างที่เริ่มมืดมนลง เช่น ทำผิดกฏสวรรค์แล้วหนีมายังโลก ทำให้พลังงานมืดมนลง เช่น ลูซิเฟอร์

2. กำเนิดจากมิติที่ต่ำลง : คือ มิติที่ต่ำกว่าภาคพื้นโลก หรืออยู่ใต้พื้นโลกได้รับการปลดปล่อย หรือหลุดออกมา ยังพื้นโลกเบื้องบนที่สูงขึ้น จากนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ได้รับการชำระล้างแล้วกำเนิดใหม่ หรือไม่ได้รับการชำระล้าง ก็ได้ ดังนั้น พลังงานที่มาจากแหล่งนี้ จึงมีทั้งภาคสว่างและภาคมืด นอกจากนี้ ยังแบ่งได้เป็นกลุ่มพลังงานเก่าและคลาสสิคดังนี้

2.1) กลุ่มพลังงานเก่า : กลุ่มนี้ อยู่ในข่าย ควรได้รับการชำระล้าง เพื่อกำเนิดใหม่ ซึ่งอาจจะได้รับการชำระล้าง ช้าเร็ว ต่างกันไป ตามวาระนั้นๆ 


2.2) กลุ่มพลังงานคลาสสิค : เป็นกลุ่มที่ยังมีความสว่างและสะอาดอยู่พอสมควร ยังไม่อยู่ในข่ายที่จะต้องได้รับการชำระล้างยังทำหน้าที่ได้อยู่

3. กำเนิดจากมิติเดียวกันกับโลก : คือ การกำเนิดจาก "สังขารมนุย์" ก็ดี, สังขารสัตว์ ก็ดี ฯลฯ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับภาคพื้นโลก ไม่สูงหรือต่ำไปกว่านั้น ซึ่งมักจะเกิดจากสังขารมนุษย์ที่บำเพ็ญบารมียิ่งยวด หรือมีพลังจิตมากเกินกว่าสังขารนั้นๆ จะเก็บไว้ได้ "พลังงานบางส่วนจะถูกแบ่งออกแล้วได้รับการปลดปล่อยออกมา" จากสังขารนั้นๆ จะกลายเป็นสมบัติของโลก ได้รับการดูแลจากไกอาดุจบุตรฉะนั้น เพื่อใช้เป็นพลังงานในการช่วยโลกต่อไป นอกจากนี้ พลังงานกลุ่มนี้ยัง แบ่งออกได้เป็น สองแบบด้วยกัน

3.1) กลุ่มพลังงานคู่โลก : พลังงานเหล่านี้ เมื่อกำเนิดจากสังขารมนุษย์แล้ว สังขารมนุษย์ยังไม่สิ้นอายุขัยลง พลังงานเหล่านี้ จะถูกเก็บไว้ในโลกเพื่อรอโอกาสเหมาะสมในการใช้ จะได้รับการปลดปล่อยออกมาสู่เจ้าของ 


3.2) กลุ่มพลังงานจากโลก : พลังงานเหล่านี้ เกิดเมื่อสังขารสิ้นอายุขัยสังขารนั้นจะปลดปล่อยพลังงานออกมา แล้วบางส่วนจะไปสู่มิติที่สูงขึ้นแต่บางส่วนจะไปสู่มิติที่ต่ำลง ตามแต่สภาพของพลังงานนั้นๆ จะถูกจัดสรรไป


การกำเนิดพลังงานคลาสสิค 3 แบบ ส่งผลให้ได้พลังคลาสสิคต่างกัน


พลังงานคลาสสิค ก็มีต้นกำเนิดที่แตกต่างกันอีกด้วย 3 รูปแบบ ดังนี้

1. กำเนิดจากสังขารมนุษย์ : คือ เกิดจากพลังจิตที่มากเกินสังขารมนุษย์จะเก็บไว้ได้ จึงเกิดการ "แบ่งส่วนออก" ของพลังงานนั้นๆ แล้วเข้าสู่ระบบการจัดเก็บของโลก เพื่อรอเวลาที่เหมาะสมในการใช้ขับเคลื่อนโลกต่อไป

2. กำเนิดจากมิติที่สูงขึ้น : คือ เกิดจากพลังงานที่มาจากมิติเบื้องบนที่สูงกว่าพื้นโลก ลงมาประจำการณ์ ณ พื้นโลก เป็นระยะเวลานานๆ จึงกลายเป็น "พลังคลาสสิค" ที่ใช้ในการขับเคลื่อนโลก มาเป็นเวลายาวนานแล้ว

3. กำเนิดจากมิติที่ต่ำลง : คือ เกิดจากพลังงานที่มาจากมิติที่ต่ำลง กว่าภาคพื้นโลก หรือมาจากใต้พื้นดิน เป็นพลังงานที่อาจมีวิวัฒนาการต่ำแต่ได้รับการชำระล้าง หรือพัฒนาให้กลายเป็นพลังงานคลาสสิคได้ในที่สุด


พลังงานคลาสสิค ที่มาจากสังขารมนุษย์นั้น จะเป็นพลังงานที่มีเจ้าของและมี "ผู้เก็บรักษาดูแล" เพื่อส่งต่อทอดให้ผู้รับที่เหมาะสม รับไปใช้ในการขับเคลื่อนโลก ซึ่งจะมีการเก็บรักษาไว้ ณ ภาคพื้นโลกจุดใดจุดหนึ่งก็ได้ เมื่อใดที่ "เจ้าของ" หรือ สังขารที่แบ่งภาคส่วนพลังงานนั้นออกมาได้มาเยือนโลกอีกครั้ง มันก็จะกลับคืนสู่สังขารนั้นๆ แม้ว่าเขาจะมาภายใต้ "สังขารใหม่" แล้วก็ตาม แต่มันจะจดจำ ต้นกำเนิด ของมันได้เสมอ 



ข้อดีและเหตุผลของการเลือกใช้ "พลังงานคลาสสิค" แทนพลังงานใหม่


พลังงานคลาสสิค เป็นพลังงานที่ได้รับการทดสอบแล้วว่าเหมาะสมกับโลกมันจึงไม่ใช่พลังงานที่อยู่ในระหว่างการทดลอง ไม่ต้องมีการลองผิด-ลองถูกอีกต่อไปและใช้ได้จริง เหมาะสมกับโลกมากกว่าพลังงานใหม่ แม้ว่าจะมีลักษณะเหมือนพลังงานเก่า กล่าวคือ ผลจากการใช้พลังงานคลาสสิคที่ขับเคลื่อนโลกไปแล้วทำให้รู้สึกเหมือนใช้พลังงานเก่า ดูเก่าแก่ หัวโบราณทว่า มันก็ใช้ได้ผล และเหมาะสมกับโลก และไม่ว่ายุคสมัยไหนๆ มันก็ยังมีความเหมาะสมและแก้ปัญหาได้จริงอยู่ ดังนั้น แม้มันจะดูเก่า หรือคล้ายว่าจะล้าหลัง แต่มันก็ไม่ตกยุค ตกสมัย มันยังใช้ได้ดีอยู่เสมอๆ สำหรับโลกนี้ทว่า อย่างไรก็ตาม โลกก็จะได้รับทั้งพลังงานใหม่, พลังงานเก่า และพลังงานคลาสสิคในการขับเคลื่อนไปอยู่ดี เพียงแต่ว่าพลังงานเก่า ก็จะถูกเก็บไปก่อน ทำให้ "สิ้นอายุการใช้งาน" ไปก่อน ส่วนพลังงานใหม่ อาจจะดูดีโดดเด่น แต่ก็จะเป็นเหมือน "ไฟใหม้ฟาง" คือ ดูดีในช่วงหนึ่งก่อนจะมอดหมดไป ส่วนพลังงานคลาสสิคนั้น ดูไม่หวือหวา ไม่น่าสนใจมากนัก ทว่า จะมีระยะเวลายาวนานมากกว่า เรียกว่า "มีความยั่งยืน-มั่นคงสูงที่สุด"



คุณเป็นเจ้าของ "พลังงานคลาสสิค" ซึ่งได้รับการเก็บรักษาไว้ หรือไม่?


พลังงานคลาสสิคที่เกิดจากสังขารมนุษย์ ในขณะที่มนุษย์ยังไม่หมดอายุขัย เมื่อได้รับการแบ่งส่วนพลังงานออกมาแล้วจะได้รับการเก็บรักษาไว้ในโลกนี้ และรอเวลาที่เหมาะสมในการใช้งานต่อไป ซึ่งบางครั้ง เจ้าของได้สิ้นอายุขัย ละสังขารไปแล้วได้เกิดใหม่ มีสังขารใหม่อีกครั้ง ก็สามารถจะกลับมาใช้ "พลังงานคลาสสิค" ของตนเองที่ได้รับการรักษาไว้ในโลกได้อีกครั้ง และพลังงานคลาสสิคนั้น จะสามารถจดจำ "ต้นกำเนิด" ของมันได้เสมอ ไม่ว่าเขาจะมาในสังขารใหม่อย่างไร จะดีหรือแย่กว่าสังขารเก่าก็ไม่เป็นปัญหาใดเลย เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พลังงานคลาสสิคนั้นๆ จะกลับคืนสู่ร่างสังขารของเจ้าของนั้นๆ ไม่ว่าพลังงานนั้นๆ จะมีลักษณะใดเช่น พลังงานที่เป็น "รูปธรรมชีวิตในระดับพลังงาน" ก็ดี, พลังงานที่เป็น "รูปร่าง" ต่างๆ เช่น พระขรรค์, ดาบ, จักร ฯลฯ ก็ดี, พลังงานที่เป็นเพียง"อรูป" ไม่มีรูปร่าง เช่น พลังเก้าเอี๊ยง, พลังไทเก็ก, พลังภูติอุดร ฯลฯ ก็ดีพลังงานเหล่านี้ ถ้าได้รับการถ่ายทอดหรือเก็บรักษาไว้ในโลก จะสามารถย้อนกลับคืนมาสู่ "เจ้าของเดิม" ที่เคยให้กำเนิดมันได้อีกครั้งหนึ่ง ได้ด้วยดังนั้น ถ้าคุณจดจำ "อดีต" ของคุณได้ อย่าได้มองผ่านเลยไป เพราะมันอาจกลายเป็นพลังพิเศษที่คอยเสริมความสามารถ ให้คุณในปัจจุบันก็ได้



สิ่งที่สำคัญที่สุดของคุณในตอนนี้คือ "ความเชื่อ-ความศรัทธา" เพราะถ้าคุณขาดสิ่งนี้ คุณจะไม่มีวันได้พลังงานคลาสสิคของคุณกลับมาเลยเพราะคุณได้ปิดใจกั้นโอกาสทองของตัวคุณเองไปเสียแล้ว ทุกอย่างก็จบลงแค่นั้น แต่ถ้าคุณลองเปิดใจรับ เชื่อ และทดลองดูสักครั้ง บางครั้งถ้ามันใช่ขึ้นมา ถ้ามันประสบความสำเร็จขึ้นมา ผลที่ได้ มันจะคุ้มค่ามากมายมหาศาลเลยทีเดียว เอาละ สรุปง่ายๆ เลยก็คือ ถ้าคุณเชื่อว่าคุณเคยสร้าง "พลังงานอันดีงาม" ไว้ในโลกนี้ และมันก็สามารถกลับคืนมาสู่คุณได้ โดยคุณ "ไม่ต้องไปเริ่มฝึกจาก 0 ใหม่" คุณเพียงเปิดใจรับ และเชื่อแล้วใช้พลังนั้นๆ ต่อไป ชีวิตคุณจะไม่ต้องเริ่มจาก 0 บ่อยๆ แต่คุณจะเริ่มจาก "พื้นฐานเก่า" ที่คุณได้ทำเอาไว้แล้ว บนโลกนี้ ซึ่งมันมีมากมายนักเกินกว่าที่ผมจะพรรณนาให้คุณฟังได้ พลังงานคลาสสิคเหล่านั้น กำลังรอให้คุณใช้มันไปในทางที่สร้างสรรค์ เพื่อร่วมกันทำสิ่งที่ดีงามแก่โลกนี้อีกครั้ง อย่างที่ในอดีตคุณก็เคยใช้มันสร้างสรรค์สิ่งดีงามแก่โลกมาแล้ว


ขอให้ พลังคลาสสิคช่วยทำให้คุณค่าเก่าของคุณฟื้นคืนเร็วพลัน สวัสดี



27 มิ.ย. 2555


"เสียงจากกูรูด้านพลังงาน"
รับสื่อสารโดย


瑠璃王

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 comments:

Post a Comment