ทุกส่วนในบล็อกนี้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อุทิศแล้วเพื่อปวงชน. Powered by Blogger.
RSS

เสียงสวรรค์อาจผ่านหนัง การ์ตูน หรือคนที่ไม่น่าเชื่อถือ แต่ก็อาจเป็นจริง!

สวัสดีครับ ท่านทั้งหลาย วันนี้ ผมรับอาสามาช่วยท่านเรื่อง "การติดต่อสื่อสารต่างมิติ" โดยตรง เพื่อช่วยให้ท่านเชื่อมโยงกับเราได้ง่ายขึ้น อย่างแรก ต้องแจ้งแก่ท่านก่อนว่าเราได้ติดต่อสื่อสารกับทุกท่าน "ตลอดเวลา" แต่ว่าท่านอาจไม่ได้ยินเรา หรือได้ยิน ได้เห็นแล้ว แต่ไม่เชื่อมันเอาละ ต่อไปนี้ ผมจะมาคุยกับท่านเรื่องนี้นะครับ


เสียงสวรรค์ ก็ดี หรือ ข้อความต่างมิติ ก็ดี เชื่อมต่อตรงมายังทุกท่านเสมอ ไม่เคยขาด ทั้งเสียงที่ไม่อาจได้ยินด้วยหู และที่สามารถได้ยินได้ด้วยหูของท่านก็ตาม เราติดต่อทุกท่านอยู่เสมอ ทว่า น้อยท่านนักที่จะได้ยิน หรือได้ยินแล้วจะเชื่อสิ่งที่ท่านได้ยินนั้น เพราะเรามีหน้าที่ติดต่อสื่อสารกับท่านอยู่แล้วดังนั้น เราจึงต้องติดต่อสื่อสารกับท่านตลอดเวลา พวกเราจะแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบมนุษย์ๆ แต่ละคนจะมีพวกเราอย่างน้อย 1 รูปธรรมชีวิตที่คอยดูแลเรื่องการสื่อสาร และส่งสาร์นนี้ ทว่า เราไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการสื่อสารเท่าใดนักเพราะมนุษย์น้อยคนที่จะได้ยินเสียงของเรา หรือเชื่อเมื่อได้รับสาร์นจากเรา เอาละ ท่านคงสงสัยแล้วว่าเสียงที่ว่านั้นเป็นอย่างไร? ท่านได้รับสาร์นทุกคนจริงหรือ? และทำไม ท่านจึงเหมือนไม่ได้ยินอะไรแบบนั้นเลย? ผมจะค่อยๆ อธิบายไปครับ


อย่างแรกเลยคือ "ความเชื่อ" และ "การเปิดใจรับ" หากท่านไม่มีสองสิ่งนี้ ท่านจะไม่อาจรับสาร์นจากต่างมิติของพวกเราได้เลย แต่เมื่อท่านมีแล้ว ท่านก็แค่ "ผ่านด่านแรก" เท่านั้น ยังมีอีกหลายด่านที่ท่านจะต้องผ่านให้ได้ ท่านจึงจะทำหน้าที่รับสาร์นจากพวกเราได้


เอาละ เริ่มจากด่านแรกก่อน ท่านที่ไม่อยากจะเชื่อ ไม่อยากจะเปิดใจรับ ก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้บังคับให้ท่านเชื่อหรือเปิดใจรับ แต่ถ้าท่านใดอยากจะทดลอง เราก็ยินดีแนะนำให้แก่ท่าน กล่าวคือ การมีความเชื่อที่ตรงทาง ทำให้ท่านรับสาร์นได้ตรงทาง ไม่ใช่ได้รับจากที่อื่น, แหล่งอื่น ประการที่สอง การเปิดใจรับ ท่านจะได้รับการสื่อสารในรูปพลังงานอย่างหนึ่ง และระหว่างนั้น ที่ท่านเปิดใจรับ ท่านอาจได้รับอย่างอื่นปนไปด้วย ก็ได้ เหมือนท่านเปิดภาฃนะใหญ่ๆ รับอะไรสักอย่าง อาจจะได้รับ "สิ่งเจือปน" เข้าไปได้ โดยที่ท่านไม่ได้เจตนา ดังนั้น ท่านจึงต้องมีความสามารถในการ "เปิดรับ-ปรับจูน" คลื่นให้ตรงด้วย เพราะจะทำให้การสื่อสารราบรื่น และไม่มี "คลื่นพลังงานอื่นแทรก" นี่เป็นเทคนิกของการเปิดรับข่าวสารจากต่างมิติ ซึ่งคุณจะต้องมี "จิตใจที่แน่วนแน่" หรือ "ศรัทธาที่แม่นตรง" ต่อแหล่งข้อมูลนั้นๆ มาก เช่น เวลาที่คุณรับสาร์นจากพระเจ้า คุณก็ต้องศรัทธาตรงแน่วแน่ต่อท่าน เหมือนเล็งธนูที่ตรงเป้ามากๆ เป็นเวลานานๆ มากพอขณะที่รับสาร เพื่อไม่ให้เป๋ไปทางอื่น เทคนิกง่ายๆ คือ การคิดเสมอว่าท่านกำลังคุยอยู่กับคนๆ หนึ่ง แม้มีคนรอบข้างมารบกวนและชวยคุยด้วยมากมาย ท่านก็จะไม่ปันสมาธิไปทางอื่น เคยไหม? เวลาที่ท่านกำลังคุยกับเพื่อนสนิทนานๆ ท่ามกลางคนจำนวนมาก แล้วท่านไม่ปันสมาธิออกไปสู่ภายนอกเลย ท่านแน่วแน่แต่จะคุยอยู่กับคนที่ท่านต้องการคุยมาก ไม่เสียสมาธิออกไปสู่คนรอบข้างเลย



อย่างที่สองคือ "การเลือกเข้าสู่แหล่งข้อมูล" คุณจะเข้าสู่แหล่งข้อมูลต่างๆ ได้ ก็ต่อเมื่อคุณมีความเชื่อถือในแหล่งข้อมูลนั้นๆ แล้วคุณยังจะต้องมี "ระดับ" มากพอที่จะเข้าถึงได้ด้วย กรณีที่คุณเป็นผู้สื่อสารไปยังแหล่งนั้นๆ เพื่อขอข้อมูลนะ อนึ่ง การสื่อสารมีสองทาง คือ กรณีที่เราส่งสาร์นมาให้ท่านเอง แบบนั้น ท่านรอรับ ไม่ยาก แต่แบบที่สองคือ ท่านจะเป็นผู้สื่อสารขึ้นไป หรือถามอะไรต่อพวกเรา กรณีนี้จะยากขึ้นมากหน่อยคือ ท่านต้องมีความชำนาญมากพอ ที่จะเป็นฝ่ายสื่อสารขึ้นไปก่อน และรอรับสาร์นจากข้างล่างอีกที เอาละ ในกรณีที่สองนี้ คุณอาจจะถามจากแหล่งข้อมูลที่แตกต่างกัน บางแหล่งไม่มีหน้าที่ตอบคำถามนั้นแก่ท่าน ก็จะไม่ทำหน้าที่ตอบกลับท่านมา แต่บางแหล่ง มีหน้าที่ในการตอบท่านได้ก็จะทำหน้าที่ตอบท่านกลับมา ทว่า "ท่านกล้าเชื่อถือทุกอย่างในจักรวาลนี้หรือไม่" เพราะถ้าท่านต้องการคำตอบที่หลากหลาย ท่านต้องมีศรัทธาต่อแหล่งข้อมูลที่หลากหลายมาก ดังนั้น ท่านจะสามารถศรัทธาทุกอย่างในจักรวาลนี้ได้หรือไม่? ถ้าท่านทำไม่ได้ ท่านมีศรัทธาตรงต่อแหล่งข้อมูลเพียงหนึ่งเดียว เช่น พระเจ้า ท่านก็ต้องสื่อสารและถามจากพระเจ้าเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ในยามที่ท่านไม่มีหน้าที่ที่จะตอบ (พระเจ้าไม่จำเป็นต้องตอบทุกคำถามที่ท่านถาม เพราะท่านมีอิสระที่จะตอบหรือไม่ ก็ได้) ท่านก็อาจจะได้รับการ "ทดสอบ" จากแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่ใช่พระเจ้า มาตอบแทน แต่ตอบให้ผิดไปทางอื่น ก็ได้ และนั่นแหละ คือ การทดสอบของท่าน


อย่างที่สามคือ "สาร์น" ที่เราส่งให้ท่าน ไม่จำเป็นต้องเป็นเสียงที่ได้ยินในแบบทิพย์เสมอไป สิ่งที่เราส่งมาเป็นพลังงาน ถ้าท่านมีความสามารถแปลงพลังงานเป็นเสียงในระดับละเอียดได้ ท่านก็จะได้ยิน ทว่า ท่านไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นได้เสมอไป ถ้าท่านรับพลังงานนั้นได้ แล้วปล่อยให้พลังงานนั้นขับดันตัวท่านไปเหมือนท่านเป็นร่างที่ไร้ชีวิตจิตใจ ไม่มีความรู้สึกนึกคิดของตนเองชั่วขณะ แล้วพลังงานนั้นจะขับดันร่างของท่านไปใช้ร่างสังขารของท่านเป็นอุปกรณ์สื่อสาร และก็จะได้สาร์นนั้นออกมาเอง


อีกประการหนึ่ง สาร์นนั้นอาจถูกส่งมา "ทางอ้อม" ก็ได้ เช่น ผ่านบุคคลที่รับสาร์นได้ ไม่ได้ส่งมายังท่านโดยตรง โดยปกติ คนที่รับได้และสื่อได้อย่างไม่เอาความคิดของตนเองเข้ามาปน มักเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น คนที่กำลังเมาขาดสติอยู่, คนบ้า, คนที่มีจินตนาการมาก เช่น นักเขียน, นักแสดง, ผู้กำกับหนัง ฯลฯ เป็นต้น ทว่า ข้อมูลจากบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือเหล่านี้ มีทั้งสิ่งที่ไม่ใช่สาร์นของเราปนอยู่มากมาย คำถามคือ "ท่านจะแยกแยะได้อย่างไร?" นั่นละ ท่านจึงต้อง "ถาม" มายังเราว่าสาร์นนั้นๆ ใช่สิ่งที่เราส่งไปหรือไม่? เช่น ท่านอ่านการ์ตูนเรื่องหนึ่ง ท่านก็เกิดความสงสัยขึ้นว่า "นี่คือ การสื่อถึงอะไรอยู่? นี่คือ สาร์นอะไร พิเศษหรือไม่?" ท่านก็ถามขึ้นมายัง "แหล่งข้อมูลต้นทาง" โดยตรง เมื่อท่านเชื่อมโยงการสื่อสารกับเราได้ ท่านได้รับสาร์นแท้ๆ จากเรา ท่านอาจจะพบว่าในสื่อที่ท่านเห็น หรือได้ยินด้วยกายเนื้อปกติ เช่น การ์ตูน, หนัง ฯลฯ นั้นๆ มีอะไรที่ตรงบ้าง หรือเป๋ออกไปจาก "แหล่งข้อมูลต้นทาง" นั้นๆ นั่นเอง



อย่างที่สี่คือ ทำไมบางคนรับได้ สื่อสารได้ และทำไมบางคนทำไม่ได้คำตอบ ก็ไม่ต่างจากคำถามที่ว่า ทำไม ปลาว่ายน้ำได้ หรือนกบินได้คำตอบคือ "คุณต้องเป็น" ก่อน เป็นผู้รับสาร์นต่างมิติก่อน คุณจึงจะทำได้ไม่ต่างจากนกที่บินได้ หรือปลาที่ว่ายน้ำได้ การจะเป็นได้ ก็เกิดจาก "การกำเนิดใหม่" นั่นเอง เมื่อคุณกำเนิดใหม่แล้ว เป็นอย่างพวกเรา นักสื่อสารต่างมิติทั้งหลาย คุณจะสามารถทำได้เองโดยไม่ต้องฝึก


เอาละ ยังมีอีกอย่างคือ "พลังงานเก่า" จะเป็นตัวขัดขวางการสื่อสารของเราและท่าน พลังงานเก่าจะผูกมัด พัวพันท่าน ให้ท่านวนเวียนและนึกคิดแต่เรื่องเก่าๆ เดิมๆ พัวพันติดอยู่กับสิ่งนั้นๆ ทำให้ท่านไม่อาจจะรับสาร์นจากเราได้อย่าง "ใสซื่อบริสุทธิ์" ดังนั้น ท่านจึงต้องชำระล้างพลังงานเก่านั้นให้เรียบร้อยก่อนที่ท่านจะทำหน้าที่สื่อสารต่างมิติ และมันจะดีมากเมื่อคุณสื่อสารต่างมิติ "หลังตื่นนอนตอนเช้าใหม่ๆ" เพราะเป็นช่วงเวลาที่ภายในของคุณค่อยข้างใสบริสุทธิ์มากที่สุด หลังจากนี้แล้ว พลังงานเก่าบนโลกท่มีอยู่มากมาย จะเข้ามาพัวพันกับคุณมากขึ้นจนการสื่อสารต่างมิติของคุณ มีอุปสรรค และประสิทธิภาพลดลงได้ครับ




ประเด็นที่ห้าคือ "การพิสูจน์เชิงประจักษ์" หรือ การมีประสบการณ์จริงด้วยตัวของท่านเอง จะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า "สาร์นที่ท่านได้รับนั้นจริงหรือไม่?" เรายินดีเสมอที่จะให้ท่านได้ประสบการณ์จริงก่อนแล้วจึงเชื่อมันควรจะเป็นเช่นนั้น แต่ก่อนที่ท่านจะได้พบประสบการณ์จริง ท่านอาจจะถูกขัดขวางด้วยอคติต่างๆ เสียก่อน ก็ได้ สิ่งนี้ จะทำให้ท่านไม่สามารถที่จะสื่อสารต่างมิติได้ มันคือ "บ่วงกับดักของพลังงานเก่า" ที่ขวางกั้นเราและท่านเอาไว้ ดังนั้น ท่านควรคิดเพียงว่า "ขณะรับสาร์นคือการทดลอง" และผลมันจะออกมาเมื่อ "ท่านมีประสบการ์จริงแล้วเท่านั้น" เช่น เมื่อเราได้สื่อสารแก่ท่านเรื่องการกำเนิดใหม่ อาจทำให้ท่านเหมือนมีชีวิตใหม่ซึ่งมีอะไรบ้างที่ท่านพอจะสังเกตุเห็นได้บ้าง? จากนั้น ท่านก็มีประสบการณ์ตรง คือ มีเรื่องอย่างนั้น เกิดแก่ท่านจริงๆ นั่นแหละ ท่านจึงค่อยเชื่อ ก็ได้


อนึ่ง ระหว่างทางที่ท่านยังไม่มีประสบการณ์จริงเกิดขึ้น ท่านควรรู้จักการ "วางใจให้เป็นกลาง" ต่อข้อมูลต่างๆ ทุกอย่าง ทุกข้อมูล และทุกแหล่งไม่ว่าแหล่งข้อมูลแหล่งนั้น "จะน่าเชื่อถือมากๆ" ท่านก็ไม่ควรรู้สึกเชิง + มาก หรือเชื่อมากไปทันที หรือแหล่งข้อมูลนั้นๆ "ไม่เชื่อถือเลย" ท่านก็ไม่ควรรู้สึกเชิง - ไปก่อน ทว่า มันยากมากเลย สำหรับมิติที่ท่านเป็นอยู่หากท่านยังไม่ได้เลื่อนระดับไปสู่มิติที่สูงขึ้น ท่านจะตกอยู่ภายใต้ "หลุมกับดักของข้อมูล" ท่านไม่พ้นที่จะเชื่อคนที่น่าเชื่อถือศรัทธา ไปก่อน ทั้งที่ยังไม่ได้มีประสบการณ์จริงต่อท่านให้เห็นเป็นประจักษ์ ท่านก็เชื่อแล้วและท่านก็มัก "ไม่เชื่อ หรือรู้สึกเชิงลบ" ต่อแหล่งข้อมูล ที่ไม่น่าเชื่อถือโดยที่ท่านยังไม่ได้มีประสบการณ์จริงต่อท่านให้เห็นเป็นประจักษ์เลย !


สุดท้ายนี้ การทำหน้าที่ "สื่อสารต่างมิติ" นั้น ไม่จำกัดใดๆ มีความเท่าเทียมกันเสมอต่อมนุษย์โลกใบนี้ หมายความว่า มันไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นคนเชื้อชาติใด, ประเทศใด, ชายหรือหญิง หรืออะไรใดๆ มันขึ้นอยู่กับ "ตัวของท่านเอง" ว่าจะทำได้หรือไม่? ดีเพียงใดสิ่งสำคัญคือ "ท่านต้องมีความกล้าหาญมากพอ" ที่จะเสี่ยงบ้า หรือเสี่ยงถูกหาว่าบ้า หรือเสี่ยงที่จะได้รับข้อมูลที่ผิดพลาด เพราะทุกกิจทุกการทำงาน ย่อมต้องมีทั้งปัญหาและอุปสรรคในตัวงานเองทั้งนั้น


ขอเพียงท่าน ทำตัวเหมือน "นักวิทยาศาสตร์" ที่กำลังทดลองและพัฒนางานของท่านอยู่เสมอ ท่านมีกระบวนการทดลองและวัดผลที่ดี ไม่หลอกตัวเอง ไม่หลอกผู้อื่น ตรงไปตรงมา ไม่เอาความคิดของตนเองลงไปผสมมากเกินไป การทดลองของท่าน ก็จะพัฒนายิ่งขึ้นจากที่อาจใกล้ความจริงน้อย 10% ท่านเริ่มรับข้อมูลได้เท่านั้น แต่เมื่อท่านเพียรพยายามทำมากขึ้นเรื่อยๆ ท่านก็อาจรับได้ชัดเจนมากถึง 80% ก็ได้ ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้ว เราไม่ได้คาดหวังว่าท่านต้องมีความสามารถถึง 100% เพราะมันเป็นไปได้ยากที่จะควบคุมปัจจัยภายนอกขณะท่านทำการสื่อสารอยู่ หรือรับสื่อจากเราอยู่ก็ตาม ดังนี้มันจึงไม่ได้สำคัที่ต้องสมบูรณ์แบบ แต่มันสำคัญอยู่ตรงที่ความเพียรของท่านที่จะพัฒนากระบวนการการทำงานของท่านอย่างต่อเนื่องไป


สำหรับการสื่อสารของผมในวันนี้ ขอจบลงเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ ...


30 พ.ค. 2555


"เสียงจาก The Messenger"
รับสื่อสารโดย


瑠璃王

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 comments:

Post a Comment