คุณจะเป็นอะำไรก็ได้ ถ้าเข้าใจกฏแห่งการปรับจูน

ที่รัก ยังมี "กฏธรรมชาติระดับสากลจักรวาล" อีกประการหนึ่งที่อาจจำเป็นต่อการเลื่อนระดับของท่าน นั่นคือ "กฏของการปรับจูน" มันมีความเรียบง่ายมาก แต่มันจะซับซ้อนและยุ่งยากขึ้น เมื่อถูกนำไปใช้จริงในทางปฏิบัติ เพราะท่านสามารถใช้พลังในการจูนใครต่อใครได้มากมาย ให้เขาเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ยากเลย หรือท่านเองอาจกลายเป็น "เหยื่อ" ของการถูกปรับจูนอยู่ก็ได้ ที่รัก ถ้าเธอกำลังตกเป็นเหยื่อของการถุกปรับจูนอยู่เธอควรยกระดับตัวเองด้วยการทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้กระจ่าง


อย่างแรกที่ท่านควรเข้าใจคือ กฏแห่งการปรับจูนมีลักษณะคล้ายกฏแห่งการดึงดูดที่ว่าสิ่งที่เหมือนกันย่อมดึงดูดกัน ใช่ไหม? แต่มันมีรายละเอียดมากไปกว่านั้น คือ การปรับจูนสามารถจูนสิ่งที่เหมือนกันหรือตรงกัยข้ามกันก็ได้ เช่น เอาลบไปล่อให้เกิดบวก, หรือเอาบวกไปจูนให้เกิดบวกเหมือนกัน มันเป็นไปได้ทั้งสองทางนะ ยกตัวอย่างง่ายๆคนที่มีความเป็นแม่มาก ถ้าเขามีปฏิสัมพันธ์กับคุณ คุณก็จะถูกจูนไปด้วย "ภาวะเด็กหรือความเป็นลูก" นี่เป็นแบบตรงกันข้ามจูนกัน แต่ถ้าเป็นแบบเดียวกันจูนกัน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณชอบหนังเรื่องหนึ่งคุณคุยกับเพื่อนๆ แล้วเพื่อนๆ มีแนวโน้มชอบตามด้วย นี่ก็คือ การปรับจูนอีกแบบหนึ่ง เป็นตัวอย่างง่ายๆ แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะการปรับจูนนี้สามารถจูนเอา "พลังงานบางชนิด" มาสู่ร่างกายของคุณได้ด้วย และมันมีทั้งพลังงานที่ดีต่อคุณ หรือร้ายต่อคุณ เราจะขอยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ถ้าคนที่มีพลังของพระแม่กาลีมาจูนคุณ แล้วคุณมีปฏิสัมพันธ์ด้วยคุณอาจจะได้รับพลังของพระศิวะ นั่นหมายความว่าคุณกำลังถูกหลอกใช้ให้ทำลายล้าง ได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว เมื่อคุณถูกจูนอย่างแนบเนียน?


ด้วยกฏแห่งการจูนนี้ คุณสามารถช่วยจูนเพื่อนๆ ของคุณให้สว่างไสวตามคุณขึ้นมาได้ด้วยพลังแห่งความรัก ความรักเพื่อน, รักพี่, รักน้อง และความรักในแบบที่ไม่ใช่ความใคร่, กิเลสตัณหา เป็นพลังที่ใช้ในการจูนได้อย่างดีมาก เมื่อใดที่เพื่อนของคุณกำลังลำบากจิตตก หรือมีพลังมืดเข้ารบกวน คุณสามารถช่วยเขาได้ด้วยการจูนจูนเขาด้วยพลังสว่างไสวของคุณ ให้เขามีพลังใจได้มากขึ้น นี่คือตัวอย่างง่ายๆ ของการจูนขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้ ยังมีการจูนในระดับที่สูงขึ้น คือ คุณสามารถจูนพลังงานระดับที่ซับซ้อนขึ้น สู่ผู้อื่นได้เช่นพลังงานระดับจิตวิญญาณ สมมุติ มีเพื่อนของคุณคนหนึ่งกำลังถูกจิตวิญญาณมืดครอบงำอยู่ คุณสามารถช่วยเขาได้ ด้วยการจูนจิตของเขาให้เปิดรับพลังภาคสว่าง หรือเทพคุ้มครองภาคสว่าง เขาจะรอดพ้นจากจิตวิญญาณดำมืดนั้นได้ และนี่คือ "เทคนิคที่สำคัญมาก" เพราะยังมีหลายท่าน กำลังตกเป็นเหยื่อของการ "ถูกจูนด้วยพลังลบ" มากทีเดียว เช่น การเปิดรับสื่อที่ทำให้จิตตก มีความคิดเชิงลบ หรือการถูกไล่จี้ เล่นงาน จับผิด ฯลฯ พวกเขากำลังตกเป็นเหยื่อที่ผู้กระทำเองก็อาจไม่รู้ตัวว่าได้ทำสิ่งใดลงไป ไม่รู้ถึงผลของการจูนพลังลบเหล่านั้น ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้รับเลย พวกเขายังคงถูกหลอกใช้ให้จูนพลังลบเข้าสู่ผู้คนไปเรื่อยๆ ดังนั้น เราจึงต้องการให้พวกท่านเท่าทันพวกเขา และช่วยกันจูนพลังงานด้านดีให้แก่กันและกัน ใช้พลังแสงแห่งรักมอบความอบอุ่นให้แก่กัน เพื่อปรับจูนท่านที่กำลังเป็นเหยื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติการณ์ไปได้ด้วยดี


การจูนจิตของมนุษย์จำนวนมากๆ ได้เกิดขึ้นแล้ว แน่นอนว่าเราไม่ได้พิพากษาว่าเขาผิดแต่ประการใด เราเข้าใจทุกท่าน ทุกการกระทำของท่านทั้งหลายในจักรวาลนี้ ทุกท่านต่างมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน เราเข้าใจแต่เรามีหน้าที่ "ภาคสว่าง" ดังนั้น เราจำเป็นต้องยืนหยัดในหน้าที่ของเรา ดังนั้น เราจะขอเปิดเผย "การจูนจิตสาธารณะ" ที่กำลังเกิดขึ้น ณ ช่วงเวลานี้ มันคืออะไร? มันก็คือ การจูนจิตให้คล้อยไปในทางมืดมิดที่จะใช้พลังงานแห่งความเชื่อของคนจำนวนมากๆ เพื่อสร้างรูปธรรมแห่งความจริงให้เกิดขึ้นได้ในอนาคต ถามว่าทำไมจึงเกิดขึ้นได้? ก็เพราะคนเชื่อกันมากๆ พลังแห่งความเชื่อของคนจำนวนมากๆ นั่นแหละ ที่ทำให้เกิดรูปธรรมแห่งความจริงขึ้นได้ในอนาคต และมันกำลังแพร่ระบาดมากอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น เราจึงต้องแจ้งเรื่องนี้แก่ท่าน ไม่ใช่ในฐานะจักรวาลแต่ในฐานะ "ตัวแทนแห่งแสงสว่าง" ซึ่งเรารับผิดชอบในระดับที่ย่อยลงดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องเปิดเผยเรื่องนี้แก่สาธารณชนให้ทราบไว้ เพราะการจูนจิตในระดับสาธารณะได้เกิดขึ้นแล้ว และมันส่งผลให้เกิดภัยพิบัติด้วย นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราประสงค์เลย แต่มันก็เกิดขึ้นเพราะ "การจูนจิต" นั้น


ที่รัก อัศวินแห่งแสงสว่างทั้งหลาย ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องรับภาระกิจที่สำคัญนี้ คือ การจูนแสงสว่างแก่ผู้คนทั้งหลาย ก่อนที่มันจะสายเกินไป ในท่านจินตนาการถึงท่านเป็นเทียนที่ส่องสว่างหนึ่งเล่ม ที่จุดเชื่อมต่อแสงสว่างของท่านไปยังเทียนเล่มอื่นๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นั่นคือ การจูนจิตในทางสว่างไสว ซึ่งท่านจำเป็นต้องมี "พลังแห่งความเชื่อในอนาคตที่สว่างไสว" อย่างเต็มที่และเปี่ยมล้นด้วย เพราะนี่คือ พลังพื้นฐานที่จะทำให้ท่านจุดแสงสว่างขึ้นมากลางหัวใจของผู้ที่ตกอยู่ในความมืดมนได้ เราไม่ได้มีความต้องการให้โลกนี้ตกอยู่ในภาวะวิกฤติหรือภัยพิบัติเลย นั่นไม่ใช่หน้าที่ของเรา เราเพียงช่วยท่านในการเลื่อนระดับ นำพาท่านสู่ความสว่างไสวแต่เราก็เคารพ "สมดุลแห่งจักรวาล" ที่ส่งสิ่งที่ตรงข้ามกับเราลงมาทำให้ท่านมืดมนด้วย เขาเป็นเพียงดุลยภาพหนึ่งในจักรวาลนี้ ซึ่งได้ทำหน้าที่ไปก่อนหน้าเราแล้ว เขาได้จูนจิตของมนุษย์มากมาย ให้ตกสู่ความมืดมนและใช้พลังจิตของมนุษย์ที่ตกอยู่ในความมืดมนนั้น เป็นพลังอำนาจของตนเองและสิ่งนั้นจะกลายเป็น "ภัยพิบัติ" ในอนาคตได้ ดังนั้น เหล่าอัศวินผู้กล้าอัศวินแห่งแสงสว่างทั้งหลาย โลกกำลังต้องการความช่วยเหลือจากท่านอย่างยิ่งที่จะนำพาผู้คนไปสู่ความสว่างไสว ไม่ใช่ตกอยู่ในความมืดมนนั้น


ที่รัก หากท่านกำลังอยู่ในระดับของมิติที่สูงขึ้น แต่ต้องทำหน้าที่อยู่ร่วมกับผู้คนในมิติที่ต่ำกว่า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านจะไม่ถูกจูนจิต และมักถูก "พลังในมิติที่ต่ำกว่าลงไป" จูนท่านให้ตกลงในในมิติที่ต่ำลงเรื่อยๆซึ่งท่านควรเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของตนเองให้ดี เพราะเพียงการเปิดใจรับ หรือทำหน้าที่อื่น ก็เป็นการจูนจิตในแบบหนึ่งได้สำเร็จแล้ว?


ท่านคงเข้าใจแล้วว่า "มีคนมากมายทำหน้าที่ในแต่ละระดับอยู่" ท่านไม่มีความจำเป็นใดเลยที่ต้องเข้าไปแย่งกระทำในระดับที่มีผู้อื่นกระทำอยู่แล้ว แต่ท่านควร "เลื่อนระดับตัวเองไปสู่สิ่งที่ไม่มีผู้กระทำ" หรือ ยังขาดผู้ช่วยอยู่มากนั้นมากกว่า ในมิติที่ต่ำกว่าลงไป เหมือนพีรามิดฐานล่าง มีผู้คนมากมายทำสิ่งนั้นอยู่ ขับเคลื่อนมันอยู่ ดังนั้น ไม่มีความจำเป็นที่ท่านจะต้อง "ถูกดึงลงไป" เพื่อทำหน้าที่นั้นๆ อย่าให้การจูนจิต ดึงระดับของท่านลงต่ำไป เพราะท่าน "มีหน้าที่สำคัญมากในระดับที่ท่านเป็นอยู่แล้ว" ขอให้ท่านเข้าใจถึง "กิจของแต่ละระดับให้ดี" เพื่อไม่ให้ท่านสับสนและถูกดึงต่ำลง ไปทำกิจอื่นๆ และท่านจะห่างจากมิติที่สูงขึ้นไปได้ในที่สุด!


เพื่อให้ท่านเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น ขออธิบายเป็นเชิงรูปธรรมอย่างนี้ สมมุติท่านเลื่อนระดับไปอยู่ในระดับของสากลจักรวาลแล้ว ท่านกำลังทำหน้าที่หนึ่งอยู่ ท่านอาจถูกพลังงานในระดับมิติที่ต่ำกว่าลงไป ดึงดูดลงไปด้วยการปรับจูน ซึ่งแหล่งพลังงานนั้นจะเข้ามาแนะนำท่าน ก็ดี, สอนท่าน ก็ดี, ชี้ทางท่าน ก็ดี, ถ่ายพลังสู่ท่าน ก็ดี ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ ทำให้เกิดการจูนจิตได้ทั้งสิ้น ทำให้พลังงานภายในของท่าน "รวนและถูกผสมผสานใหม่" ได้ จากที่เป็นอย่างหนึ่ง จะถูกทำให้กลายพันธุ์เป็นอีกอย่างหนึ่งได้ แหล่งพลังงานที่จูนจิตท่าน จะให้พลังงานแก่ท่าน แต่นั่นเป็นพลังงานในมิติที่ต่ำกว่าลงไป และส่งผลให้ท่านตกลงจากระดับเดิมได้ ซึ่งท่านควรเข้าใจถึงการจูนจิตในลักษณะนี้ด้วย เมื่อใดที่ท่านเปิดรับพลังงานนั้น ท่านก็จะค่อยๆ ถูกพลังงานนั้นดึงดูดเข้าไป ท่านก็จะค่อยๆ ตกจากระดับที่ท่านเป็นอยู่ และไม่สามารถทำหน้าที่เดิมของท่านได้ เพราะพลังงานภายในของท่านเปลี่ยนไปจากเดิม และเพราะท่านถูก "จูนจิต" ให้เปิดรับสิ่งอื่นไปเสียแล้ว นั่นเอง


การปรับจูน สามารถทำได้ทั้งทางบวกและทางลบ การที่คุณจะรอดพ้นจากการถูกปรับจูนได้นั้น คุณต้องมั่นคงแน่วแน่และไม่หวั่นไหวไปทางใดเลยทั้งเมื่อถูกทดสอบด้วยทางบวกหรือลบก็ตาม เช่น บางคนอาจมาจูนจิตคุณด้วยการ "หาเรื่องทะเลาะ" หรือ เกะกะระรานคุณเรื่อยๆ ให้คุณปฏิฆะด้วยซึ่งถ้าคุณปฏิฆะด้วย คุณก็จะถูกจูนให้ต่ำลง และถูก "พลังงานตรงข้าม" กับคนที่จูนคุณครอบงำได้ พลังงานนี้ จ้องรออยู่แล้วที่จะใช้ร่างของคุณเพื่อปฏิฆะกับคนที่เข้ามาจูนจิตคุณด้วยพลังด้านลบนั้น ในทางตรงข้ามบางคนเข้ามาจูนจิตคุณทางบวก เช่น ทำดีกับคุณ, พูดดีกับคุณ เมื่อคุณเปิดใจรับ พลังงานบางอย่างจะเชื่อมโยงเข้ามาภายในสังขารของคุณได้ทันที ดังนั้น การรับมือกับ "การจูนจิต" จึงเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก เพราะคุณยังต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนทั้งหลายอยู่ แต่การที่คุณจะไม่มีความรู้สึกทั้งทางบวกและลบเลย ย่อมเป็นไปได้ยากมาก เพราะพลังงานของเขานั้นอาจมีมากกว่าที่คุณคิด นั่นส่งผลให้จิตของคุณถูกจูนได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย


ที่รัก ความแน่วแน่มั่นคงของจิต ที่ตรงต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะช่วยให้ท่านไม่ถูกจูนจิตด้วยสิ่งอื่น, พลังงานอื่นๆ และทำให้การทำกิจของท่าน "รวน" ไปจากเดิม เพราะการทำงานที่เป๋ไปเป๋มานั้น ย่อมไม่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีได้ ใช่หรือไม่? ดังนั้น เป็นความจำเป็นที่ท่านต้องแน่วแน่และมีศรัทธาที่มั่นคงต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด ในระดับมิติของท่าน หรือหากท่านต้องการเลื่อนระดับไปสู่มิติที่สูงขึ้น ท่านก็ควรมีศรัทธาแน่วแน่ในสิ่งดีงามในระดับที่สูงขึ้นนั้น ความศรัทธาแน่วแน่ จะช่วยท่านไม่ให้เป๋ไปเป๋มาได้


ที่รัก อีกประการหนึ่งคือ "การทำกิจอย่างต่อเนื่อง" จะช่วยให้ท่านยังคงอยู่ในระดับเดิมได้ เพราะ "ภาระกิจคือภาพสะท้อนของตัวตนของท่าน" เมื่อใดที่ตัวตนเชิงพลังงานภายในของท่าน เปลี่ยนแปลงไป อาจเพราะถูกจูนด้วยพลังงานอื่นๆ มันจะส่งผลต่อการทำนหน้าที่ของท่าน ทันทีเช่น เดิมท่านสามารถสื่อสารต่างมิติได้ แต่เมื่อท่านถูกจูนแล้ว ท่านอาจไม่สามารถทำได้ดังเดิมอีก การติดต่อสื่อสารของท่านจะขาดหายไปได้และท่านไม่อาจจะรับข้อมูลที่สำคัญได้อีกต่อไป สิ่งที่ท่านได้รับจะเป็นสิ่งใหม่ที่ท่านถูกจูนเข้าไปแทน และมันจะนำพาท่านไปทำหน้าที่อื่นในที่สุด


ที่รัก "กฏแห่งการจูน" เป็นเพียงกฏธรรมชาติหนึ่งในสากลจักรวาลนี้ ดังนั้น จึงยังมีใครอีกมากมายที่รู้กฏแห่งการจูนนี้ และพวกเขาสามารถที่จะจูนใครต่อใครได้ เพื่อให้เปิดรับพลังงานแบบเดียวกับพวกเขา ซึ่งพลังงานที่ถูกจูนนั้น มีทั้งพลังงานภาคมืดดำ และพลังงานภาคสว่างดังนั้น เราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขอความร่วมมือจากท่าน เพื่อที่จะทำให้โลกนี้สว่างไสวขึ้น ก่อนที่มันจะถูกจูนด้วยพลังแห่งความมืดมน และทำให้ผู้คนทั้งหลายตกอยู่ในความมืดมน และพลังเหล่านั้นจะถูกใช้ไปเพื่อทำให้เกิด "ภัยพิบัติ" ที่รัก เหล่าอัศวินแห่งแสงสว่างทั้งหลาย พวกท่านสามารถช่วยได้ ก่อนที่มันจะสายเกินไป ขอให้ท่านใช้พลังแห่งความเชื่อไปสู่ "อนาคตที่สว่างไสว" เพราะนี่คือพลังอำนาจที่จะต้านทานกับ "อนาคตที่มืดมน" นั้นได้ มันจำเป็นมาก ที่รัก จงสร้างอนาคตขึ้นด้วยความสว่างไสว ด้วยความเชื่อและการกระทำของท่านเอง อย่าให้ "คำทำนายที่มืดมน" มาครอบงำและนำพาท่านไปผิดทาง


14 พ.ค. 2555


"เสียงจากอัศวินแห่งแสงสว่าง"
รับสื่อสารโดย


瑠璃王