ทุกส่วนในบล็อกนี้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อุทิศแล้วเพื่อปวงชน. Powered by Blogger.
RSS

การถูกต้อนเข้าสู่ "วิถีต่างดาว" ของมนุษย์โลก เป็นอย่างไร?

สวัสดีครับ เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องพื้นฐานที่ท่านพอสังเกตุเห็นได้ง่ายๆ เพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปบนโลกนี้ ให้มากขึ้น เอาละ ผมจะขอเข้าสู่เนื้อหาเลยก็แล้วกัน


โลกมนุษย์เปิดกว้างไม่เฉพาะเจาะจง ต่างจาก "ต่างดาว" ที่เฉพาะเจาะจง


นี่คือ สิ่งแรกที่สุดที่คุณควรจะเข้าใจให้ได้ก่อน เพื่อที่จะแยกแยะให้ได้ว่าสิ่งที่เรียกว่า "โลกนี้" และ "ต่างดาว" ต่างกันอย่างไร คุณจึงจะมองเห็นสิงที่เรียกว่า "ต่างดาว" ออก เอาละ อย่างแรก คุณควรเข้าใจว่าโลกของคุณ โลกมนุษย์นี้เป็นอย่างไร? ซึ่งมันก็คือ โลกที่เปิดกว้าง มนุษย์โลกนี้จะไม่มีความชำนาญเฉพาะด้านมากเกินไป แต่เขาก็สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้บ้าง แม้ไม่เก่งนัก นั่นคือ ลักษณะของเชื้อสายจากไกอา ซึ่งไม่มีในดาวอื่น หมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าดาวดวงอื่น ทำไม่ได้แบบนี้ คือพวกเขาจะมีลักษณะเฉพาะ ชำนาญเฉพาะเรื่อง อย่างใดอย่างหนึ่ง และไม่เปิดรับสิ่งที่แตกต่าง เพราะมันจะทำให้สิ่งที่เป็นอยู่ในดาวของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปได้ ดังนั้น พวกเขาจึงมีกรอบกั้นให้ตัวเอง เรียนรู้อยู่แต่ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเฉพาะเรื่อง เรียกว่า "โลกเฉพาะด้าน" ไม่ใช่โลกกว้างที่มีทุกอย่างรอบด้านเหมือนกับโลกมนุษย์ ยกตัวอย่างเช่น ดาวอังคาร จะมีแต่เรื่องการสงคราม, สู้รบ และการแข่งขัน และพวกเขาก็จะไม่เปิดรับในเรื่องที่แตกต่างออกไป นั่นคือ "ระบบปิดกั้นประจำดวงดาว" ของพวกเขา



มนุษย์โลก อาจถูกมนุษย์ต่างดาวต้อนไปสู่ "ดาวของพวกเขา" ได้มาก


อย่างที่สองคือ "มนุษย์โลก" อาจถูกมนุษย์ต่างดาว ต้อนไปสู่โลกของพวกเขา ซึ่งมันเป็นโลกเฉพาะด้าน เฉพาะเรื่องที่มีระบบปิดกั้น ไม่ให้มีทางออกไปอย่างอื่น เหมือน Matrix พิเศษชนิดหนึ่ง ที่เมื่อมนุษย์โลกถูกต้อนเข้าไปแล้ว "ก็ยากที่จะออกมาได้" เช่น มนุษย์บางคนต้องอยู่แต่เรื่องการเมือง วนเวียนอยู่ออกมาไม่ได้, บางคนก็ต้องอยู่แต่ในด้านการค้าขายไม่อาจเอาตัวออกไปเรียนรู้เรื่องอื่นได้ บางคนถูกล้อมกรอบให้อยู่แต่ศาสนาหรือลัทธินิกาย ฯลฯ เอาละ นั่นคือ "ขั้นตอนเริ่มต้น" ที่จะต้อนมนุษย์โลกเข้าสู่ "ต่างดาว" ก็เท่านั้น มันยังไม่ถึงต่างดาวอย่างแท้จริง แต่มันจะค่อยๆ เข้าสู่ต่างดาวเป็นขั้นๆ ไป ทีละน้อย และคนที่ถูกต้อนก็จะรู้สึกว่าโลกของเขาแคบลง หรือเฉพาะด้านมากขึ้น ไม่อาจที่จะแบ่งเวลาไปสู่เรื่องอื่นๆ ด้านอื่นๆ มิติอื่นๆ ได้อีก นั่นแหละคุณถูกต้อนแล้ว



ความเป็น "มนุษย์โลก" ที่แท้จริง จะทำให้คุณไม่ถูกต้อนไปต่างดาว


อย่างที่สามคือ ถ้าคุณไม่อยากถูกต้อนไปต่างดาว และคุณพอใจกับดาวโลกดวงนี้แล้ว คุณจะต้องทำตามวิถีของโลกนี้ คือ การเปิดกว้างเรียนรู้รอบตัวทุกอย่าง แม้ว่าคุณจะไม่เก่งหรือไม่มีความชำนาญเฉพาะด้านก็ตาม นั่นไม่เป็นไร สำหรับการเป็นมนุษญ์โลกนี้ ขอเพียง "คุณไม่ปิดกั้นการเรียนรู้รอบตัว" เพราะเมื่อใดที่คุณเริ่มปิดกั้นการเรียนรู้ คุณก็จะไล่ต้อนตัวเอง เข้าสู่ "โลกเฉพาะด้าน" หรือ "มิติเฉพาะ" ไปทีละนิดโดยที่คุณไม่รู้ตัว จนถึงจุดหนึ่ง คุณมีความสามารถเฉพาะด้านมากๆ ก็จะถูก "จองตัว" โดยมนุษย์ต่างดาว และพวกเขาก็จะเปิดรับให้คุณเข้าไปสู่โลกของพวกเขา "ดาวของพวกเขา" หรือ "มิติที่พวกเขาสร้างขึ้นซ้อนทับโลกนี้" ทว่า มันไม่ครอบคลุม ไม่ครบทุกด้าน มันจะเฉพาะเพียงด้านใดด้านหนึ่งที่พวกเขาต้องการ, ถนัด หรือชอบ ตามวิสัยของเขานั้น



แม้กระนั้นคุณก็เลือก "ดาวอื่น" ที่ไม่ใช่โลกนี้ได้ด้วยการกระทำของคุณ

อย่างที่สี่คือ มันไม่มีดาวดวงไหน ผิดหรือถูก ไม่ใช่ว่าโลกนี้ถูกต้องแล้วแต่ดวงดวงอื่นผิด หรือโลกนี้ผิด ดาวดวงอื่นถูก ก็หาไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น มันก็แค่ "ผลจากความหลากหลายของจักรวาล" ที่ไม่ใช่ความถูกต้องหรือว่าความผิดพลาดอะไรหรอก คุณก็แค่ "พิจารณาแล้วตัดสินใจเลือก" ก็เท่านั้นเอง ถ้าคุณพอใจกับโลกนี้ จะอยู่ในโลกนี้ "เวียนว่ายอยู่เฉพาะสามภพนี้" คุณก็ต้องกระทำอย่างโลกนี้ แต่ถ้าคุณอยากไปอยู่ดาวดวงอื่นที่คุณพอใจ หรือต้องการ คุณก็ต้องเข้าสู่วิถีต่างดาว ของดาวดวงนั้น และคุณก็จะมีความชำนาญเฉพาะด้านเกิดขึ้นได้ แต่ความเข้าใจรอบด้านก็จะลดลงด้วยเอาละ ผมไม่ได้บอกว่าสิ่งเหล่านี้แบ่งแยกโลกและต่างดาวได้ แต่มันก็เป็นเพียง "ขั้นตอนเริ่มต้น" ของการคัดสรรเท่านั้น ยังมีอีกหลายขั้นตอนมากที่แยกมนุษย์โลกนี้ ออกไปสู่ดาวดวงอื่นๆ หรือจำกัดแต่ให้อยู่ในดาวดวงนี้เอาละ นี่ก็คือ จุดเริ่มต้นก่อนที่จะมีการทดสอบและการพัฒนาขั้นสูงขึ้นไป



หรือแม้แต่ลูกผสมต่างดาว (Indigo) คุณก็สามารถเลือกที่จะเป็นได้


อย่างที่ห้าคือ ทางเลือกอีกทางหนึ่งของคุณก็คือ การเป็นลูกผสมมนุษย์โลกและมนุษย์ต่างดาว กล่าวคือ คุณอาจจะต้องมีด้านหนึ่งที่เปิดกว้างที่จะเรียนรู้ทุกอย่างแม้ว่าจะไม่ชำนาญสักอย่างก็ตาม และอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นความชำนาญเฉพาะด้านของคุณ ซึ่งคุณอาจจะได้มันมาจากการได้รับพลังจากต่างดาวที่เฉพาะเจาะจงในเรื่องนั้นๆ โดยตรง ซึ่งก็เป็นอีกวิถีหนึ่งที่คุณสามารถดำรงอยู่ในโลกนี้ได้ อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ จักรวาลนี้ไม่ได้มีอะไรผิด หรืออะไรถูก เพียงแต่คุณเลือกได้ คุณเลือกเองและคุณก็จะเป็นผู้รับผลของมันเองอีกด้วย ทว่า คุณต้องไม่ลืมว่าคุณไม่ได้เป็นผู้เลือกฝ่ายเดียว คุณจะถูกมนุษย์ต่างดาวพิจารณาเพื่อเลือกคุณหรือไม่อีกด้วย ดังนั้น ต่อให้คุณอยากจะเป็นอย่างมนุษย์ต่างดาวแต่คุณเลื่อนระดับไปถึงไม่ได้ ก็ไม่อาจเป็นอย่างพวกเขาได้ แม้แต่จะเป็นลูกผสมด้วยซ้ำไป



ระบบภพภูมิของโลกนี้ กับต่างดาว แตกต่างกัน คุณต้องแยกแยะให้ออก


อย่างที่หกคือ โลกนี้มีสามภพ ระบบภพภูมิของโลกนี้ มีสวรรค์หกชั้น แต่ถ้าคุณเลื่อนระดับของคุณสูงไป กว่านั้น คุณจึงจะพบ "ดาวดวงอื่น" ได้แต่ตราบใดที่ระดับของคุณยังต่ำอยู่และไปไม่เกินโลกนี้ คุณจะคิดว่าสิ่งที่คุณเข้าใจคือระบบภพภูมิของโลกนี้ทั้งหมด เพราะอะไร? เพราะคุณมีความสามารถในการหยั่งรู้ไปได้แค่นั้นเอง คุณจำเป็นต้องเลื่อนระดับให้สูงขึ้น "เหนือสามภพของโลกนี้" อย่างแท้จริง หลุดพ้นจากวิถีของโลกนี้อย่างแท้จริง คุณจึงจะเข้าใจหรือสัมผัสได้ว่า "ดาวดวงอื่น" เป็นอย่างไร และดำรงอยู่กันอย่างไร สิ่งนี้จำเป็นมาก เพราะ "หลายคนหลง" หลงคิดไปว่าสวรรค์หกชั้นของโลกนี้ คือ ต่างดาวแล้วก็มี บางคนก็หลงว่ามันไม่มีต่างดาวมีแต่ระบบภพภูมิของโลกนี้เท่านั้น เพราะพวกเขายังหลงวนอยู่แต่ "ในโลกนี้" ยังไม่ถึงระดับ "หลุดพ้นโลกอย่างแท้จริง" ได้ นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น วิทยาการ "การคิดเชิงบวก" ของโลกนี้ สูงสุดจะมาจากสวรรค์ชั้นที่หก (ชั้นมาร) มันก็อย่างหนึ่ง แต่วิทยาการการคิดเชิงบวกซึ่งมาจาก "ต่างดาว" เช่น ดาวไซย่า ก็อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งต่างกันมาก เมื่อใดที่คุณเข้าใจ "การตรวจต้นธาตุต้นธรรม" ต้นวิชาความรู้ คุณจึงจะสาวไปถึงต้นตอของวิชาความรู้นั้นได้ และทราบได้ว่าอะไรบ้างที่มาจากต่างดาว



พลังและวิทยาการต่างดาว ก็ถูกส่งลงมายังโลกนี้ จนแยกแยะกันไม่ออก


อย่างที่เจ็ดคือ พลังและวิทยาการต่างดาว ก็ถูกส่งลงมายังโลกนี้ จนแยกแยะกันไม่ออก มนุษย์บนโลกจะไม่ทราบว่าสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากโลกนี้นั้นมีที่มาจาก "ต้นธาตุต้นธรรม" ต้นทาง ต้นวิชา จากในโลกนี้ หรือต่างดาวพวกเขาจะไม่รู้ นอกจากจะได้รับการสอน หรือเลื่อนระดับไปสู่ระดับที่รู้ได้ด้วยตนเอง ว่าสิ่งนี้มาจากในโลกหรือนอกโลก เอาละ มันไม่ใช่ของง่ายๆ เพราะการเลื่อนระดับให้ "หลุดพ้นจากโลกนี้ได้ทั้งสามภพ" ยังเป็นเรื่องที่ยากสำหรับมนุษย์โลกนี้ พวกเขาจึงแยกแยะไม่ออกว่าวิทยาการความรู้ใดที่มีที่มาจากต่างดาว และมีที่มาจากในโลกนี้บ้าง พวกเขายังเป็นเด็กที่ต้องเรียนรู้และพัฒนาไปอีกมาก กว่าจะแยกแยะได้ว่าอะไรมาจากต่างดาวและอะไรมาจากในโลกนี้ เพราะพวกเขายังไม่ทราบด้วยซ้ำว่า "มนุษย์โลกที่แท้จริง" มีลักษณะอย่างไร พวกเขาคิดว่าทุกสังขารของคนที่อยู่ในโลกนี้ เป็น "มนุษย์" ทั้งหมด ทั้งที่จริงแล้ว ไม่ใช่อย่างนั้นเลย บางคนเท่านั้นที่เป็นมนุษย์เต็มตัว และยิ่งน้อยไปอีกที่จัดได้ว่าเป็น "มนุษย์โลก" ที่แท้จริง!



สุดท้ายนี้ ขอเน้นย้ำว่าในจักรวาลนี้ ไม่มีอะไรผิด หรือถูกหรอก มันก็เป็นเช่นนั้นของมันเอง เพียงแต่คุณจะเข้าใจมันได้มากเท่าใด? ทั้งในระดับองค์รวมและระดับเฉพาะส่วน เพราะแม้แต่ "โลกที่คุณอาศัยอยู่นี้" คุณก็อาจยังทำความเข้าใจมันได้ไม่หมด เอาละ มันไม่ใช่การตำหนินะ แต่เพียงกระตุ้นให้คุณ "มีพลังที่จะเรียนรู้โลกของคุณเองให้รอบด้านมากขึ้น" ก็เท่านั้น ทั้งในมุมมองแบบนอกเข้ามาสู่ใน (Outside in) และมุมมองแบบในไปสู่นอก (Inside out) เพื่อคุณจะได้ไม่สับสนในสิ่งที่มีอยู่ในโลกของคุณ แต่บางสิ่งมันอาจมาจากต่างดาว ก็เท่านั้นเอง


ขอพลังแห่งความกล้าหาญที่จะเรียนรู้จงนำพาคุณไปให้ถูกทาง สวัสดี



12 ก.ค. 2555


"เสียงจากสภาฯ"
รับสื่อสารโดย


瑠璃王






  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 comments:

Post a Comment