ทุกส่วนในบล็อกนี้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อุทิศแล้วเพื่อปวงชน. Powered by Blogger.
RSS

เรือโนอาร์-เรือดำ-เรือธรรมนาวา มีที่นั่งจำกัด จำต้องเลือกคนที่ใช่จริงๆ

สวัสดีครับ วันนี้ผมขออธิบายเรื่อง"เรือโนอาร์" ที่ปรากฏในคัมภีร์ต่างๆ ในแบบของผมเอง ตามที่สังขารนี้จะใช้ศัพท์ที่เขารู้จักในการอธิบาย เหมือนเดิมครับ ผมจะพยายามสื่อสารให้เข้าใจได้ง่ายที่สุด เพื่อคนในประเทศนี้นะครับ เอาละ เชิญรับฟังได้แล้วครับ


พระบุตร หรือ "นิตยโพธิสัตว์" จะมีบารมีสร้างเรือโนอาร์แต่ว่ามันคืออะไร?


พระบุตรหรือ "เทวทูตที่ได้รับการคัดเลือกแล้วว่าให้มาโปรดสัตว์ในโลกนี้" ในฐานะตัวแทนของพระเจ้า หรือก็คือ "นิตยโพธิสัตว์" จะทรงสร้างบารมีมากพอที่จะทำให้ได้ "เรือ" หนึ่งลำ ในชาติหนึ่ง ในชาตินั้น ท่านจะต้องมีการเลือก "สัตว์ที่จะโปรด" เพราะท่านไม่อาจจะโปรดสัตว์ได้ทั้งหมด หรือทั้งจักรวาล เหมือนพระพุทธเจ้าสมณโคดม จะทรงเลือกบัวเหล่าบน หรือก็คือ "คนมีปัญญา" ไปก่อน ทว่า พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์มีพุทธวิสัยต่างกัน การเลือกโปรดสัตว์ก็ต่างกันไปด้วย ดังนั้น ธรรมชาติหรือพระเจ้าก็แล้วแต่จึงจัดสรรให้ทำโจทย์ "เรือโนอาร์" เพื่อเลือกสัตว์ไปกลุ่มหนึ่งที่จะโปรดในยุคของท่าน เช่น เจิ้งเหอ (นักเดินเรือชาวจีน) ก็เลือกขันทีที่ภักดีต่อตนขุนนางคนหนึ่งของจิ๋นซี ก็พาชาวจีนชายและหญิงขึ้นเรือหนีไปหรือแม้แต่ในญี่ปุ่นก็มี "เรียวมะ" และคณะที่ร่วมบารมีกันสร้างเรือรบขึ้น เอาละ เรื่องการบำเพ็ญบารมีจนถึงขั้นจะได้เรือโนอาร์นี้เป็น "โจทย์สากล" ที่ดูแลโดย"พระอัลเลาะห์" และเมื่อใดที่มีการสร้างเรือ เมื่อนั้นภัยพิบัติจะมายังโลกนี้มากมาย โดยเฉพาะ "สงครามศักดิสิทธิ์" นั่นคือ "โจทย์" ในการบำเพ็ญบารมี ก็เท่านั้นเอง เพื่อให้พระบุตรนั้นตัดสินใจเลือกโปรดสัตว์สักกลุ่มหนึ่งซึ่งผู้ใดบำเพ็ญบารมีได้ถึงขั้นนี้ ก็แน่นอนว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแน่



สิ่งที่ปรากฏมีใน "เรือโนอาร์" คือ บุญบารมีที่จะเสวยร่วมกันในยุคนั้นๆ


พระบุตรและบริวารจะสร้างเรือโนอาร์ร่วมกัน ในนั้นจะมีสิ่งต่างๆ ที่จะใช้และดำรงชีพอยู่ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจะกลายเป็นผลบุญบารมีที่ท่านจะได้เสวยร่วมกันในยุคสมัยของท่านนั้นๆ โดยไม่ต้องทำกรรมให้ได้มาเลยมันจะมาโดยบุญนั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากเพราะท่านจะต้องนิพพานในชาติสุดท้ายพร้อมกัน ดังนั้น ท่านจะทำกรรมมากไม่ได้ ท่านจะต้องพอใจในผลบุญบารมีที่ร่วมกันสร้างมานั้นๆ หรือก็คือ อยู่ในเรือร่วมกันให้ได้แม้ว่าในเรือจะมีปัจจัยในการดำรงชีพน้อยกว่ายามอยู่บนบกก็ตาม ท่านก็ไม่สามารถก่อกรรมไปแสวงหาได้เพิ่มอีกแล้ว ดังนั้น ท่านจะต้องอยู่อย่างนั้น พอใจเท่านั้น เท่าที่ท่านร่วมสร้างกันมาได้ เพื่อจะได้นิพพานพร้อมกันได้ นั่นเอง ซึ่ง "คนที่ใช่" ก็จะพอใจในสิ่งที่ทำได้ร่วมกันนั้นแต่คนที่ไม่ใช่ก็จะไม่พอใจและแยกแตกตัวออกจากห่างไปเอง (จะไม่นิพพานในยุคนั้น) อนึ่ง บางครั้งบางชาติการสร้างบารมีด้วยการสร้างเรือนั้น ยังไม่เต็ม ยังไม่บริบูรณ์ พระบุตรและบริวาร ก็ต้องมาสร้างบุญบารมีร่วมกันในเรืออีก เช่น การร่วมรบในเรือร่วมกัน เป็นต้น เพื่อจะเก็บบารมีร่วมกันให้ได้เต็มบริบูรณ์



สิ่งที่ปรากฏมีใน "เรือโนอาร์" ของพระบุตรแต่ละองค์จะแตกต่างกันไป


พระบุตรแต่ละองค์จะทรงพิจารณา "ปัจจัยที่จำเป็นต้องมีในเรือโนอาร์" เพื่อร่วมกันสร้างมันไว้ในเรือนั้นๆ ให้สามารถดำรงชีพร่วมกันได้โดยไม่ต้องก่อกรรมเพื่อให้ได้มาอีก ทว่า พระบุตรแต่ละพระองค์จะทรงพิจารณาเลือกปัจจัยต่างๆ ที่ใช้ในเรือต่างกันออกไป เช่น ถ้าพระบุตรเลือกปืนและอาวุธที่ใช้ในการรบ ในยุคสมัยของท่านก็อาจจะมีสงคราม มาช่วยทำให้สรรพสัตว์ไม่หลงโลก ตื่นจากโลก และพร้อมปฏิบัติจิตตรงนิพพาน แต่ถ้าไม่มีแบบนั้น ยุคของท่านก็จะปรากฏมีอย่างอื่นแทน ดังนั้น "ปวงสัตว์" จึงมีที่ "พอใจและไม่พอใจ" ปัจจัยต่างๆ ที่อยู่เรือโนอาร์ซึ่งออกแบบและแก้โจทย์โดยพระบุตรบางองค์ พวกเขาจึงเลือกที่จะขึ้นเรือที่พวกเขาชอบซึ่งส่งผลให้พวกเขาได้นิพพานในยุคที่แตกต่างกันออกไป พร้อมกับพระบุตรองค์นั้นๆ ด้วย ยิ่งเรือลำใหญ่ยิ่งใหญ่อลังการมากก็ต้องสร้างบารมีนานไปอีก ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด พบทุกข์ไปอีกมากมายหลายชาติ กว่าจะพ้นนิพพานไปได้ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับ "การเลือกของปวงสัตว์และพระบุตร" เอง



"เรือโนอาร์" ของพระศรีอาร์ฯ จะเลือกรับสัตว์ที่มีลักษณะแบบใด?


เรือโนอาร์ของพระศรีอาร์ฯ จะเลือกรับสัตว์ที่มี "ความจงรักศรัทธาจริง" ไม่เป๋ออกไปเพราะถูกยั่วยุ ยั่วยวนทางบวกหรือลบ ต้องแน่วแน่จริงๆ ซึ่งจะเป็น "ชายล้วน" ที่มีลักษณะเหมือนนักรบ คือ ขยัน, ต่อสู้ชีวิต, อดทนมีระเบียบวินัยมาก, มีอุดมการณ์, เสียสละเพื่อส่วนรวมได้, ไม่มักมากในลาภยศ ฯลฯ ถ้านึกภาพไม่ออก ก็ลองนึกถึงตอนที่ "เรียวมะ" สร้างเรือก็แล้วกันครับ นั่นแหละ ลักษณะแบบนั้น พวเขาสร้างบารมีผ่านสงครามมาหลายครั้งจนถึงจุดหนึ่งก็หมด ไม่มีอีก พวกเขาก็ไม่ต้องเข้าสู่สงครามอีกทว่า สัตว์บางกลุ่มจะไม่ได้รับขึ้นเรือของพระศรีอาร์ฯ เช่น ผู้มีจิตเป็นมารท่านจะไม่รับขึ้นเรือไปด้วย เพื่อไม่ให้บริวารของท่านถูกมารก่อกวน และทำให้เป๋ออกนอกทางจนไม่ได้นิพพานได้ ในที่สุด ท่านจึงระวังมากที่จะมีการคัดกรองและไม่เอาผู้มีจิตมารเข้ามาร่วมในเรือด้วย เอาละ ถึงแม้ว่ามีคำทำนายให้ไว้ว่ายุคของท่านจะดีมากก็ตาม ทว่า เมื่อพร้อมเข้านิพพานแล้วจะไปก่อกรรมเพราะหลงไหลสิ่งใดๆ ที่ปรากฏขึ้นในยุคนั้นๆ ถูกยั่วยุให้ก่อกรรมไปแสวงหาสิ่งใดๆ ในยุคนั้นๆ "ไม่ได้" ต้องพอใจในสิ่งที่มีมาโดยบุญ ไม่ใช่ได้มาด้วยการก่อกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมาก เพราะสิ่งยั่วยุในยุคนั้นมีมากเหลือเกิน พระบุตรองค์อื่น ก็จะมายั่วยุด้วยการสร้างบารมี"อลังการยิ่งไปกว่านั้น" เพื่อดึงสัตว์ให้ไปกับตนด้วยจึงต้องศรัทธาต่อกันจริงๆ ไม่เช่นนั้น ก็กลายเป็นหทารแตกทัพ ไร้ระเบียบ และพากันหลงหมด



"สิ่งแปลกปลอม" ชอบแทรกเข้ามาในเรือโนอาร์ พระบุตรจะต้องระวัง


เรือโนอาร์ของพระบุตรจะถูกทดสอบเสมอ และมักมี "สิ่งแปลกปลอม" เข้ามาแทรกในเรือ และจะส่งผลร้ายต่อการดำรงอยู่ร่วมกันในเรือของผู้คนทั้งหมด ดังนั้น "พระบุตร" จึงต้องเข้มงวดมาก ในการเลือกคนที่จะขึ้นเรือร่วมกันไป จะให้สิ่งแปลกปลอมเข้ามาไม่ได้ เพราะจะทำให้มีที่เหลือน้อยลง และคนที่ใช่จริงๆ ก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือ เพราะคนที่ไม่ใช่เข้ามายึดที่นั่งในเรือไม่ยอมลุก ไม่ยอมปล่อย หวงไว้ไม่ยอมให้ใคร เสียแล้ว แบบนั้น จะกลายเป็นปัญหาอย่างใหญ่หลวงต่อพระบุตรและบริวารต่อไป โดยที่ไม่มีใครคาดคิดได้ เพราะสิ่งแปลกปลอมอาจจะเข้ามาในแบบ "คนดี" มากมายอย่างยิ่งยวด เพื่อให้เรายอมเปิดรับเขาทว่า พวกเขาดีแต่เปลือก ไม่ได้ดีจริง เมื่อเข้ามาในเรือได้ ก็จะทำให้สิ่งที่วางร่วมกันไว้ ปั่นป่วนและเสียไปหมด เรืออาจจะล่มจม เหมือนครั้งที่"พระมหาชนก" ได้รับการทดสอบ ก็ได้ จึงต้องเตือนท่านไว้ว่าให้ระวัง



สุดท้ายนี้ ไม่มีอะไรมากครับ แค่จะบอกว่า "เรือโนอาร์" มีที่นั่งจำกัดถึงจุดหนึ่งพระบุตรจะต้องเลือกรับใครขึ้นเรือร่วมกันไปด้วย คนที่ไม่ใช่จะขึ้นเรือไม่เลย เพราะจะกันที่คนที่ใช่ ทำให้คนที่ใช่ ไม่ได้ขึ้นเรือไม่ว่าเขาจะเป็นคนที่ดีต่อเรามาก, คนที่เลี้ยงดูเรามาแต่เล็ก, คนที่มีบุญคุณต่อเราแล้วเรียกร้องให้เรากตัญญูตอบแทน ฯลฯ ล้นไม่ได้ทั้งสิ้น ถ้าเขา "ไม่ใช่" จะรับขึ้นมาไม่ได้เลือก และไม่มีการอ้างเหตุผลอะไรทั้งนั้น เพราะไม่ใช่ ก็คือ ไม่ใช่ จะอ้างเหตุผลอะไร มามากมายมันก็ไม่ใช่ และไม่ใช่เรื่องที่จะมาเถียงกันด้วยเหตุผลทั้งนั้น ไม่ใช่ก็คือ ไม่ใช่ จบแค่นั้น คนท่ใช่ ก็คือ คนที่ใช่ คนที่ไม่ใช่ จะมาหน้าด้านยึดที่นั่งในเรือ ไม่ยอมลุกออกไป ไม่ได้เด็ดขาด เพราะคนที่ใช่ เขาก็จะเสียที่นั่งไป ดังนั้นเมื่อถึงจุดหนึ่ง "จุดที่ต้องเลือก" หวังว่าทุกท่านก็เข้าใจในสิ่งนี้ด้วย และพระบุตรนั้น มีสิทธิ์เต็มที่ ที่จะเป็นผู้เลือกเอง


ขอให้ พลังแห่งความศรัทธาที่แท้จริงจงนำพาท่านตรงสู่ทาง สวัสดี



9 ก.ค. 2555


"เสียงจากเรือโนอาร์"
รับสื่อสารโดย


瑠璃王





  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 comments:

Post a Comment