ทุกส่วนในบล็อกนี้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อุทิศแล้วเพื่อปวงชน. Powered by Blogger.
RSS

มนุษย์ที่อยู่บนโลกมากมายมีเชื้อสาย "ต่างดาว" มนุษย์ที่มีเชื้อสายโลกนี้ มีน้อย?

สวัสดีครับ วันนี้ มีเรื่องเบาๆ เรื่องหนึ่ง มาคุยกันนะครับ เป็นเรื่องที่พื้นๆ รากฐานง่ายๆ คือ เรื่องของเชื้อสายทางจิตวิญญาณ หรือจุดกำเนิดของจิตวิญญาณมาจากที่ใด ซึ่งผมขอแบ่งง่ายๆ นะครับคือ 1. ผู้มีเชื้อสายจากต่างดาว และ 2. ผู้มีเชื้อสายจากโลกใบนี้ 

เอาละ ผมจะค่อยๆ อธิบายไปนะครับ


จุดกำเนิดของ "จิตวิญญาณ" ที่มาจากดาวดวงนี้ และดาวดวงอื่นๆ


ในโลกนี้ มีคนมากมายปนกัน ทว่า พวกเขามี "เชื้อสายทางจิตวิญญาณ" ที่แตกต่างกันมากครับ มารวมกันอยู่ที่นี่ โดยผ่าน "ร่างสังขารหรือตัวตน" ตัวแล้วตัวเล่า สังขารแล้วสังขารเล่า ผ่านไป บ้างก็ยังวนเวียนอยู่ในโลกนี้ต่อไป บ้างก็สามารถกลับไปยัง "ดาวแม่" ของตนเองได้ เอาละ! คุณควรเริ่มต้นทำความเข้าใจ จากคำว่า "เชื้อสายทางจิตวิญญาณ" ก่อน มันคืออะไร? มันก็คือ "จุดกำเนิดครั้งแรก ของจิตวิญญาณของคุณ" ที่คุณถูกสร้างขึ้นมาก่อนที่จะมีสังขารรองรับ ซึ่งมันมีจุดกำเนิดที่ต่างกันนะครับคือบางท่านมีจุดกำเนิดใน "ดาวโลกนี้ และบางท่านมีจุดกำเนิดที่ ต่างดาว" ผลที่ได้มันก็ต่างกันครับ กล่าวคือ กลุ่มผู้ที่กำเนิดในดาวโลกนี้ จะต้องได้นิพพานในดาวดวงนี้ทั้งหมดไปนอกดาวดวงนี้ไม่ได้ครับ ส่วนผู้ที่มีกำเนิดจากต่างดาว สามารถกลับคืนสู่ดาวแม่ ก็ได้ หรือ นิพพานในดาวโลกนี้ ก็ได้ครับ (เพราะโลกนี้คือสาธารณสมบัติของจักรวาลร่วมกันของทุกท่าน) 



ที่ไปสุดท้ายของการเสร็จสิ้นภารกิจทั้งสามแบบของมนุษย์โลกนี้


มนุษย์ในโลกนี้ จะมีที่ไปสุดท้ายไม่เหมือนกัน ตาม "เชื้อสายทางจิตวิญญาณ" ของเขาเป็นสำคัญ หมายความว่าถ้าเขามีเชื้อสายมาจากต่างดาว เขาจะต้องกลับสู่ดาวแม่ของเขาในท้ายที่สุด แต่ถ้าเขามีเชื้อสายจากดาวโลกดวงนี้ (เชื้อสายของไกอา) เขาก็จะได้นิพพานในดาวโลกดวงนี้ ทว่า ก็ยังมี "เชื้อสายต่างดาว" บางส่วนที่นิยมลงมานิพพานในดาวโลกดวงนี้ด้วย ซึ่งท่านจะรู้จักเขาในนาม "พระพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้า" นั่นเอง สำหรับผู้ที่กลับสู่ดาวแม่ พวกเขาจะมี "ชีวิตนิรันด์" และนิพพานในดาวแม่นั้นๆ ซึ่งจะมีอายุยาวนานกว่ามนุษย์โลกนี้มากและจะใช้เวลานานกว่ามนุษย์โลกนี้มาก กว่าที่เขาจะนิพพานไป นี่คือ ข้อแตกต่างกันของเป้าหมายสุดท้าย ในการเดินทางของพวกเขาในจักรวาล นั้นซึ่งแต่ละท่านจะมีช่วงเวลาของการ "ท่องจักรวาล" อยู่ช่วงหนึ่งที่ยาวนานไม่เท่ากัน และไปได้กว้างไกลไม่เท่ากัน ก่อนที่จะเสร็จสิ้นภารกิจในที่สุด และได้พักในที่หมายปลายทางสุดท้าย เหมือนกัน



จะทราบได้อย่างไรว่าใครมีเชื้อสายจากโลกหรือเชื้อสายจากต่างดาว?


วิธีการที่ตรงที่สุดคือ "การกลับสู่ภาวะเดิมแท้" เมื่อแต่ละท่านกลับสู่ภาวะเดิมแท้ได้ ซึ่งจะบรรลุธรรมในช่วงนั้นด้วย จะมีความแตกต่างกันสองแบบคือ 1. กลุ่มคนที่ยอมจำนนและพอใจกับการได้, มี และเป็นอยู่ในโลกแล้วและ 2. กลุ่มคนที่ยังไม่พอใจ, ไม่หยุด และยังกระทำภารกิจต่อไป ก็จะไม่จำนนต่อโลก พวกนี้จะมีเชื้อสายจากต่างดาวและพวกเขาจะมีแรงขับดันที่แรงกล้าจากเบื้องลึกระดับดีเอ็นเอทางจิตวิญญาณ ให้กลับคืนสู่ดาวแม่ ในที่สุด พวกเขาจะเลือกที่จะไม่นิพพานในโลกนี้ แม้ว่าจะได้บรรลุธรรมขั้นสูงสุด ก็ตาม พวกเขาก็จะมีแรงขับดันให้กลับคืนสู่ดาวแม่ที่พวกเขาจากมา ที่พวกเขาเคยหลงลืมมานานแล้ว เป็นต้น เอาละ นั่นคือวิธีทางตรงที่จะทำให้ทราบถึง "รากเหง้าที่มาของจิตวิญญาณต้นกำเนิด" อย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีวิธีสังเกตุอื่นๆ อีกมากมายว่า บางคนอาจเป็นเชื้อสายของมนุษย์ต่างดาวเช่น 1. มีความสามารถพิเศษกว่าคนทั่วไป 2. ชอบเรื่องแปลก โดยเฉพาะเรื่องนอกโลกหรือจักรวาล 3. มีความเข้าใจในสัจธรรมพื้นฐานของโลกได้ง่ายและเร็วกว่าคนทั่วไป 4. มีความรู้สึกสัมพันธ์กับบางสิ่ง ที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันได้เหมือนเป็น "สัมพันธภาพเดิม" ของพวกเขา 5. มักได้รับข้อมูลหรือพลังงาน ที่แตกต่างไปจากคนทั่วไป เพื่อกระตุ้นเตือนให้กลับสู่ดาวแม่เป็นต้น เอาละ นี่เป็นแค่เพียงข้อสังเกตุเบื้องต้น แต่ยังไม่ใช่ข้อสรุปนะครับ



โลกมนุษย์นี้เป็น "สาธารณสมบัติของจักรวาล" จึงมีต่างดาวมาเยือน


สิ่งต่อไปที่คุณควรเข้าใจโลกนี้ให้แจ้งชัดเสียใหม่คือ โลกนี้เป็นสาธารณสมบัติของจักรวาล ดังนั้น มันจึงถูกใช้เป็นเหมือนห้องแล็ปสาธารณะมานานแล้วสำหรับชาวจักรวาลทั้งหลาย และนั่นหมายความว่ามนุษย์ต่างดาวก็มาเยือนโลกนี้ตั้งนานแล้ว และยังคงอยู่ร่วมกับมนุษย์ พัฒนาสายพันธุ์ไปพร้อมกับมนุษย์โลกนี้ "นานแล้ว" ทำให้พวกเขาเริ่มกลายพันธุ์และหลงลืม "ดาวแม่ของตนเอง" เมื่อถึงจุดหนึ่งพวกเขาจะถูกชำระล้างเพื่อให้กลับไปใสสะอาดดังเดิม และจะทำให้พวกเขาระลึกนึกถึงดาวแม่ของพวกเขาเองได้ ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจว่าถ้าจะมีมนุษย์ต่างดาวมาจากจักรวาลสู่โลก เยือนโลกของเราบ่อยๆ ก็เป็นธรรมดามาก เพราะดังที่ได้บอกแล้วว่าโลกนี้เป็นสาธารณสมบัติของจักรวาล อันแตกต่างไปจากดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ซึ่งพวกเขาจะมีความเป็น "เอกสิทธิ์" ของตนเองที่ "ผู้มีเชื้อสายอื่นๆ" ไม่สามารถเข้าไปได้และมีการปกป้องไม่ให้มีการเข้าไปสู่ดาวเหล่านั้นโดยพละการ หรือไม่ให้บุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาติ ด้วย



การแก่งแย่งชิงอำนาจขึ้นเป็นใหญ่ครองโลกนี้ จะเกิดมากกว่าดาวอื่นๆ


สิ่งต่อไปที่คุณต้องเข้าใจตามมาหลังจากเข้าใจคำว่า "โลกเป็นสาธารณสมบัติของจักรวาล" ก็คือ การแก่งแย่ง, การแย่งชิงอำนาจ, การยึดครองโลก และการแย่งกันเป็นใหญ่ของมนุษย์ต่างดาว "ต่างสายพันธุ์กัน" เพื่อให้พวกของตนได้อยู่ในโลกนี้ ได้เป็นใหญ่ในโลกนี้ และได้อะไรมากมายที่มาอยู่ในโลกนี้ มากกว่าพวกอื่นหรือกลัวว่ามนุษย์ต่างดาวพวกอื่นจะมาชิงทรัพยากรที่มีค่าไปหมดเสียก่อนที่พวกตนจะได้รับ โดย "มนุษย์ต่างดาว" กลุ่มที่เข้ามาใหม่และยังคงมีเชื้อสายเข้มข้นจะเข้ามาติดต่อและเชื่อมโยงกับ "มนุษย์โลกที่มีเชื้อสายเดียวกัน" เพื่อให้ร่วมมือกันทำภารกิจของพวกเขา ดังนั้น จึงมีมนุษย์โลกมากมายที่มีมนุษย์ต่างดาวหนุนหลัง ให้แก่งแย่งอำนาจกันบนโลกใบนี้ และส่งผลให้เกิดความวุ่นวายของโลกใบนี้ไม่มีที่สิ้นสุด "ต่างจากดาวดวงอื่นๆ" ที่พวกเขามี "ผู้นำหรือพระเจ้าหนึ่งเดียว" ไม่เปลี่ยนแปลงไปมาเหมือนโลกนี้ ทำให้ต่างดาวมีความสงบสุขมากกว่าโลกนี้เสียอีก ทว่า มันไม่ได้มีใครผิดหรือถูกนะครับ มันเป็นธรรมดาของโลกนี้ ก็เท่านั้นเอง โลกนี้ถูกสร้างมาโดยจักรวาลให้เป็นอย่างนี้ไม่เที่ยงอนัตตาครับ



มนุษย์ที่มีเชื้อสายของโลกนี้ จะได้รับผลกระทบมากที่สุดกว่ากลุ่มอื่น


และสิ่งต่อไปที่คุณควรจะทราบคือ มนุษย์ที่มีเชื้อสายของโลกนี้ จะได้รับผลกระทบจากการแก่งแย่ง, ชิงดีชิงเด่นกัน มากกว่ามนุษย์ที่มีเชื้อสายมาจากต่างดาว เพราะมนุษย์ที่มีเชื้อสายของโลกนี้จะอ่อนแอและมีวิวัฒนาการน้อยกว่ามนุษย์กลุ่มที่มีเชื้อสายมาจากต่างดาว พวกเขาจึงกลายเป็น "เหยื่อ" ของการกระทบกระทั่งกัน ของเหล่ามนุษย์ต่างดาวและผู้ที่มีเชื้อสายจากต่างดาว มนุษย์ที่มีเชื้อสายของโลกจะได้รับผลอย่างนั้นซ้ำๆ และได้รับทุกข์ซ้ำๆ จนกว่าพวกเขาจะ "ตื่นจากการหลงโลก" และยอมจำนนต่อโลก ไม่ยึดติดโลกแต่พร้อมตรงสู๋นิพพานในโลกนี้ นั่นแหละ วิถีการดำเนินไปของมนุษย์ที่มีเชื้อสายของโลกใบนี้ ในขณะที่พวกที่มีเชื้อสายจากต่างดาว จะไม่เป็นเช่นนั้น พวกเขาจะมีความสามารถที่จะพัฒนาตัวเองให้สูงขึ้นไป เพื่อกลับคืนสู่ดาวแม่ซึ่งเป็น "ต้นกำเนิดทางจิตวิญญาณ" ของตนเอง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีมนุษย์ต่างดาวมาทำให้มนุษย์โลกมีความทุกข์ บ้างก็ตาม แต่มนุษย์ต่างดาวบางกลุ่ม ก็มาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์โลกและดาวโลกนี้ เช่นกัน



ท้ายที่สุดนี้ ผมคงได้แต่ "กระตุ้นเตือนความทรงจำเบื้องลึก" ของท่าน เท่านั้น ให้ท่านเข้าใจถึงที่มาของจิตวิญญาณของท่าน จากรากเหง้าที่แท้จริง เพื่อให้ท่านเข้าใจโลก, เข้าใจตนเอง และเข้าใจผู้อื่น ที่อยู่ร่วมกันในโลกใบเดียวกันนี้ หวังว่าท่านจะเข้าใจมันมากยิ่งขึ้น และพร้อมที่จะ "ปฏิบัติภารกิจของตนๆ" ต่อไป และไม่ว่าภารกิจของแต่ละท่าน จะแตกต่างกันอย่างไร มันก็ไม่ใช่ปัญหาหรือความผิดแต่ประการใด มันก็เป็นแค่ "ผลของความหลากหลายทางธรรมชาติของจักรวาลนี้" ก็เท่านั้นเอง เมื่อท่านมีความเข้าใจในจุดร่วมกันเช่นนี้ ท่านก็จะอยู่ร่วมโลกนี้ได้ร่วมกันอย่างสันติสุข ถึงแม้ว่าท่านจะต้องแย่งชิงทรัพยากรของโลกนี้กันบ้างก็ตาม เอาละ ผมคิดว่าแต่ละท่าน จะค้นพบวิธีการ ที่จะปรับตัวร่วมกันบนโลกนี้ได้ด้วยดีต่อไป แม้ว่าจะมีภารกิจที่แตกต่างกันบ้างก็ตาม


ขอพลังแห่งสาธารณสมบัติของจักรวาลช่วยสร้างสันติภาพแก่ท่าน สวัสดี



10 ก.ค. 2555


"เสียงจาก Indigo"
รับสื่อสารโดย


瑠璃王

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 comments:

Post a Comment