ทุกส่วนในบล็อกนี้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อุทิศแล้วเพื่อปวงชน. Powered by Blogger.
RSS

แสงธรรมจากพระจันทร์ย่อมเลือนลับ เมื่อแสงธรรมจากพระอาทิตย์กลับคืนมา

สวัสดีครับ วันนี้มีเรื่องเล็กๆ เกี่ยวกับ "ต้นธาตุต้นธรรม" ที่โลกได้รับ ส่วนหนึ่งมาจาก ภาคพื้นโลก ก็จริง แต่ก็ยังมี อีกส่วนหนึ่งมาจาก "นอกโลก" เพื่อช่วยโลกใบนี้ครับ ซึ่งเมื่อ ครั้งพระพุทธเจ้ายังอยู่ ท่านมี พลังแสงธรรมทั้ง "ภายใน" ของท่านเอง และบางส่วนก็มา จาก "ภายนอก" ซึ่งส่วนที่มา จากภายนอกนี้ มาจาก "พระ จันทร์" นะครับ ท่านเกิด, ตรัสรู้ และปรินิพพาน เกี่ยวกับพระจันทร์ ทั้งสิ้นครับ เป็นไปตามจันทรคติไม่ ใช่สุริยคติ เพราะท่านมีพลังธรรม เชื่อมโยงกับพระจันทร์ ไม่ใช่พระ อาทิตย์ครับ ทว่า หลังกึ่งกลางยุค พุทธกาล พลังจักรวาลจะเปลี่ยน ทำให้พลังแสงธรรมที่ส่องโลกจะ ไม่ใช่พลังจากพระจันทร์ แต่เป็น จากพระอาทิตย์นะครับ เอาละ ... เรามาคุยเรื่องนี้กันให้ละเอียดครับ


พลังแสงธรรมหลักที่ส่องโลกคือสิ่งที่กำหนดความเป็นไปของโลกทั้งหมด


อย่างแรกที่ผมต้องเรียนให้ท่านทราบก่อนคือ "โลกมียุคสมัยของมัน" ซึ่ง ในแต่ละยุคสมัยจะถูกกำหนดโดย "ผู้มีบารมีธรรมสูงสุด" ที่ได้รับการคัด สรรแล้วจาก "จักรวาล" นะครับ โดยปกติแล้ว เมื่อใดที่โลกมีพระพุทธเจ้า มาเกิด ก็จะนับเอาพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นเป็น "หลักสำคัญ" ครับ ทีนี้ ก็มี ความแตกต่างกันอีกในรายละเอียดของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ว่าจะมี บุญบารมีสร้างมาอย่างไร ไม่เหมือนกันใช่มั้ยครับ ยุคสมัยของโลกจึงต่าง กันไปอย่างไรละครับ นอกจากนี้ "แสงธรรมหลัก" ที่เป็นพลังจักรวาลหลัก ที่ส่องโลก ก็ต่างกันไปในแต่ละยุคนะครับ เช่น ยุคตั้งแต่พระพุทธเจ้าสมณ โคดมเกิดจนถึงกึ่งกลางพุทธกาลนั้น พลังแสงธรรมหลัก จะมาจาก "พระ จันทร์" ครับ แต่หลังจากกึ่งกลางพุทธกาลไปแล้ว พลังแสงธรรมหลัก จะ มาจาก "พระอาทิตย์" จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายครับ เมื่อแสงธรรม หลักเปลี่ยนไป แสงธรรมบริวารก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยครับ นั่นคือ เทพที่ดู แลพระพุทธศาสนา ก็เปลี่ยนไป, เทพที่ดูแลโลก ก็เปลี่ยนชุดไปด้วยครับ


พลังจักรวาลที่ส่องมายังโลก แตกต่างกันในแต่ละยุค เปลี่ยนไปอย่างไร?


ต่อไปที่ผมขอเรียนให้ท่านทราบ คือ "พลังจักรวาลที่ส่องลงมายังโลก" ในแต่ละยุคสมัยนั้น "ไม่เหมือนกัน" นะครับ มันจะปรับเปลี่ยนไปตามตัว "ผู้นำสูงสุดของมนุษย์โลก" เช่น ในยุคก่อนหน้านี้ พระพุทธเจ้า จะเป็น ผู้นำสูงสุด พลังของท่านเชื่อมโยงอยู่กับ "พระจันทร์" เหมือนว่าท่านมี เชื้อสายมาจากโลกพระจันทร์อะไรทำนองนั้น ซึ่งพลังจักรวาลส่วนที่เป็น บริวารก็จะต้องสอดคล้องกับพลังหลักที่มาจากพระจันทร์ด้วย นั่นคือ จะ เป็นพลังของ "จักรราศีทั้ง 12" ประสานกันอยู่ครับ เมื่อเกิดการเปลี่ยน แปลงในส่วนของ "พลังหลักที่เป็นพระจันทร์" จึงต้องมีการเปลี่ยนส่วน "บริวารที่เป็นจักรราศี" ด้วย เมื่อจักรวาลเลือกใช้ พลังของพระอาทิตย์ เป็นพลังหลัก ก็จะมีพลังบริวารเป็น "จักรเทพนักษัตรทั้ง 12" ครับ ซึ่ง ชาวฝรั่งจะกล่าวถึงจักรนี้ในนาม "Golden sun disc" นั่นเอง เคยได้ ยินมาแล้วใช่มั้ยละครับ เอาละ เราก็มาทำความรู้จักกับ จักรกล ที่ขับดัน โลกให้หมุนไป "อันใหม่" นี้กันให้มากขึ้นดีกว่ามั้ยครับ จะได้ไม่เชยครับ


พลังแสงธรรมหลักที่เปลี่ยนไป ส่งผลต่อสัตว์โลกให้เปลี่ยนไปอย่างไร?


ต่อไปที่ผมขอเรียนให้ท่านทราบ คือ เมื่อพลังแสงธรรมหลักเปลี่ยนไป ก็ จะขับดันให้ทุกสรรพสิ่งในโลก ดำเนินไปในแบบที่แตกต่างไปจากเดิมได้ ด้วยนะครับ อะไรบ้างละ? เช่น 1. เดิมแสงธรรมจากพระจันทร์ เน้นรับ ก็ เปลี่ยนมาเป็นพลังแสงธรรมจากพระอาทิตย์ที่เน้น รุก แทน เมื่อก่อน เรา จะถูกสอนให้ "นั่งรอรับเวรกรรม ยอมรับไป" ใช่มั้ยครับ แต่ต่อไปนี้ เราก็ จะได้รับการกระตุ้นให้ "กระทำเพื่อการชดใช้กรรม" โดยไม่ต้องนั่งรอให้ กรรมเข้าตัว เราทำกิจให้ดี ให้เต็มที่ โดยมีกรอบของศีลธรรมจรรยา ฯลฯ ล้อมไว้ เราก็จะชดใช้กรรมได้โดยไม่ต้องนั่งรอรับกรรมอย่างเดียว ซึ่งเรา ได้รับการสร้างจากธรรมชาติให้มี "มือมีเท้า ไม่ใช่ไอ้ง่อย และไม่ใช่พระ อิฐพระปูน" แสดงว่าธรรมะ ธรรมชาติ ไม่ได้สร้างให้เราอยู่เฉยๆ แล้วรอ รับแต่เวรกรรม ใช่มั้ยละครับ ทว่า มันก็ไม่ผิดหรอก ถ้าใครจะทำแบบนั้น เขาถึงเรียกว่า "แสงธรรมมันต่างกันไงครับ" แสงธรรมของพระอาทิตย์ เน้นรุก แต่แสงธรรมของพระจันทร์เน้นรับ นั่งรอรับเวร รับกรรมไปเท่านั้น ซึ่งก็ไม่มีใครผิดนะครับ เป็นเพียงความหลากหลายของธรรมชาติที่ต่าง กันเท่านั้นเอง ผมถึงบอกว่ามันไม่เหมือนกันแต่ตรงนิพพานไม่ต่างกันครับ


พลังแสงธรรมบริวารที่เปลี่ยนไป ส่งผลต่อสัตว์โลกให้เปลี่ยนไปอย่างไร?


ต่อไปที่ผมขอเรียนให้ท่านทราบ คือ พลังแสงธรรมบริวารที่เปลี่ยนไปนั้น ก็ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสัตว์โลกอีกเช่นกัน กล่าวคือ แต่เดิมแสง ธรรมบริวารคือ "เทพจักรราศี" ซึ่งเป็นเทพที่ต้องโทษมาก่อน แล้วมาขอ รับผิด รับใช้พระจันทร์จึงต้องอยู่ใน "เวลากลางคืน" เหมือนฟ้ายังมืดมน อยู่ ยังไม่สว่างไสว สังเกตุดูนะครับ คนที่ได้ตำแหน่ง, อำนาจ จะมาได้ ก็ มัก "ทำความผิดมาก่อน" เช่น สมัยก่อนฆ่าญาติตัวเอง แล้วก็ขึ้นมาได้มี อำนาจ (เช่น พระเจ้าอโศกมหาราชที่ฆ่าพี่น้องตัวเอง จนได้นามว่า พระ เจ้าอโศกผู้โหดเหี้ยมมาก่อน) ส่วนขุนนางหรือข้าราชการก็ต้อง "ติดสิน บน" เพื่อให้ตัวเองได้ตำแหน่ง ได้อำนาจ มากมายครับที่เป็นเช่นนี้ ไม่ใช่ ว่าพวกเขาเป็นคนเลวนะครับ "ระบบเวรกรรม" ของจักรวาลที่ขับเคลื่อน มาเช่นนี้ (แบบจักรราศี แห่งคืนมืดมิด) อย่างไรละครับ เอาละ แต่ต่อไปนี้ มันจะมีการเปลี่ยนแปลงนะครับ เพราะเมื่อพลังหลักเปลี่ยนแล้ว พลังแสง ธรรมบริวารก็เปลี่ยนไปด้วย เป็นเทพนักษัตรที่หากินเวลากลางวัน ก็ไม่มี "ชนักปักหลัง" ไม่ได้ขึ้นมามีอำนาจ ได้ด้วยการทำผิดอะไร มาก่อนครับ


พลังแสงธรรมหลัก จะรู้เองว่าแสงธรรมบริวารทั้ง 12 นั้นเป็นอย่างไร?


ต่อไปที่ผมขอเรียนให้ท่านทราบ คือ ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้ จะมี ผู้ที่ได้รับพลังแสงธรรมหลัก (พระอาทิตย์) ซึ่งจะทราบเองว่าพลังแสง ธรรมบริวารของตนมีลักษณะอย่างไร ซึ่งเทพนักษัตรทั้ง 12 นี้จะเป็นชุด ใหม่ และเป็น "ความลับสวรรค์" ที่จะมีผู้รู้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ที่จะนำ พาการเปลี่ยนแปลงของโลกไปสู่ยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง ซึ่งก่อนหน้านั้น "เทพพระจันทร์" ผู้มี "ฟ้ามืดหนุนหลัง" จะเข้ามาครอบครองอำนาจอยู่ ก่อน และพยายามไม่ให้พระอาทิตย์ขึ้น เพื่อให้ตนได้ครองอำนาจต่อไป จึงพยายามบดบังพระอาทิตย์ ไม่ให้ปวงสัตว์ได้รับรู้ว่าพระอาทิตย์นี้มีอยู่ จริง จากนั้นจึงทำให้คนยอมรับ "คืนมืดและดวงจันทร์" ต่อไป นอกจากนี้ ยังอาศัยแสงธรรมจากพระอาทิตย์สะท้อนเข้าสู่โลกอีก (เพราะพระจันทร์ ไม่มีแสงในตัวเอง มักต้องรอฟังคำสั่งจากผู้อื่นก่อน) และเมื่อกระบวนการ นี้สิ้นสุดลงเมื่อไร เมื่อถึงรุ่งอรุณแห่งความสุข ฟ้าก็จะสว่าง และแสงธรรม แห่งพระอาทิตย์ก็จะเฉิดฉายสู่ปวงสรรพสัตว์นั้นๆ พร้อมการปรากฏตัวของ แสงอาทิตย์ และพลังแสงธรรมบริวารทั้ง 12 เหล่านั้น เพื่อนำพาโลกสู่ยุค ใหม่อย่างแท้จริง ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ กำลังดำเนินไปอย่างเป็นรูปธรรม


"พลังจักรวาลปฏิภาค" ซึ่งตรงกันข้าม จะถูกส่งมายังโลก ไร้เทียมทาน!


ต่อไปที่ผมขอเรียนให้ท่านทราบคือก่อนการปรากฏขึ้นของแสงธรรมหลัก จะมี "พลังจักรวาลปฏิภาค" ที่ส่งมายังโลก เป็นพลังงานที่ตรงกันข้ามกับ พลังแสงธรรมหลักชุดใหม่ และพลังงานเหล่านี้จะไร้เทียมทาน ไม่มีผู้ใดที่ จะต่อกรหรือทำลายได้ นอกจาก "พลังแสงธรรมหลักและบริวาร" เท่านั้น เมื่อนั้น โลกจะเข้าสู่วิกฤติอย่างแท้จริงอยู่สักระยะหนึ่ง ท่านก็ไม่ต้องตกใจ เพราะมันจะไม่นานจนเกินไป และมันจะไม่ร้ายแรงจนเกินกว่าท่านที่พร้อม เตรียมใจได้แล้ว จะรับสถานการณ์นั้นๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ก็ ไม่ใช่การทำลายล้างโลก อาจมีบางส่วนถูกจัดสรรให้จากไปบ้างแต่ก็ไม่มี การทำให้สูญพันธุ์ มันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น สำหรับท่านที่เตรียมตัวได้ดี แต่สำหรับท่านที่ "ถูกคัดสรรออก" มันอาจจะดูรุนแรงไปบ้าง ก็เท่านั้นเอง ในประเด็นนี้ ผมจะไม่ขอกล่าวให้มากไปกว่านี้ เพราะยังมีท่านที่ทำหน้าที่ ในการสื่อสารข้อมูลต่างมิติ ในส่วนนี้เป็นการเฉพาะ ดูแลอยู่แล้ว ดังนั้น ก็ สามารถติดตามข่าวสารจากท่านเหล่านั้น ได้ครับ ผมขอผ่านไปสื่อสารข้อ มูลอื่นๆ เพื่อจะเสริมความเข้าใจของท่านในแง่มุมอื่นๆ ด้านอื่นๆ ต่อไปครับ


โลกยุคใหม่ จะถูกนำทางโดย "ภาคสว่าง" ไม่ใช่ "ภาคมืด" อีกต่อไป


สุดท้าย ที่ผมขอเรียนให้ท่านทราบ คือ เมื่อกระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้ ยุติลงแล้ว ประสบความสำเร็จแล้ว โลกจะได้รับการขับเคลื่อนโดยภาค สว่างไม่ใช่ภาคมืดดังเก่าก่อน โลกเข้าสู่ยุค "สว่าง" เหมือนเวลากลาง วัน ไม่ใช่ยุคมืดของพระจันทร์ อีกต่อไป และเหล่าอัศวินแห่งแสงสว่างที่ ได้รับการคัดสรรแล้วทั้งหลาย จะปรากฏกายขึ้นมา เพื่อนำพาปวงสัตว์ ไปสู่อนาคตข้างหน้า สิ่งต่างๆ จะเปลี่ยนไปในระดับละเอียด มากกว่าใน ระดับหยาบ โครงสร้างเก่ายังมีอยู่ ไม่จำเป็นต้องถูกทำลาย แต่พลังงาน ที่ใช้ขับเคลื่อนจะเปลี่ยนไป กลุ่มคนที่มีอำนาจจะเปลี่ยนไป ผู้ขับเคลื่อน สังคม จะเปลี่ยนจากกลุ่มพลังมืด เป็นกลุ่มพลังสว่าง มันเป็นการเปลี่ยน แปลงแบบนิ่มนวลที่สุด และรักษาโครงสร้างเปลือกนอกไว้ได้ดีที่สุด ทั้ง ยังก่อให้เกิดกระบวนการทำลายล้าง "น้อยที่สุด" อีกด้วย เพราะเราไม่ ได้ต้องการให้เกิดการทำลายล้างแต่อย่างใด (ยกเว้นว่าจำเป็นต้องเกิด) กล่าวคือ เราไม่ได้มาเพื่อทำลายล้างโลก เพราะโลกยังไม่ถึงเวลาที่จะมี การทำลายล้าง มันเพียงแต่ต้องการการเปลี่ยนแปลงในระดับพลังงานก็ เท่านั้นเอง เพื่อจะทำให้โลกได้รับการขับเคลื่อนไปสู่ยุคใหม่ที่แท้จริง ดัง นั้น งานของพวกเราจึงไม่ใช่การทำลายล้างโลก แต่เป็นการปรับพลังให้ เข้าสู่ยุค "พลังงานใหม่" ก็เท่านั้นเอง หวังว่าท่านทั้งหลาย คงจะเข้าใจ


ขอพลังแสงธรรมแห่งพระอาทิตย์ ช่วยนำทางท่านสู่โลกยุคใหม่ สวัสดี


25 ก.ย. 2555

"เสียงจากโลกยุคใหม่"
รับสื่อสารโดย

瑠璃王

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 comments:

Post a Comment