ทุกส่วนในบล็อกนี้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อุทิศแล้วเพื่อปวงชน. Powered by Blogger.
RSS

ช่วงเวลาแห่งการ "คัดสรร" นี้ ผู้มีบารมี พลังพิเศษ จะออกมาให้คนเลือกสรร!

สวัสดีครับ ยังมีเรื่องหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งการเลือกสรร (selection time) ซึ่งก็คือ ช่วงเวลานี้ ก่อนที่จะทำสิ่งอื่นๆ ต่อไป จะต้องผ่านช่วงเวลาแห่งการเลือกสรร นี้ไปก่อน จากนั้น เมื่อจัดกลุ่มกับกลุ่มที่เลือกออกจากกันได้แล้วจึงจะ "จัดการกับแต่ละกลุ่ม" ต่างกันออกไป เอาละ ในช่วงเวลานี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ลองมาคุยกันสบายๆ ครับ


ผู้มีบารมี มีพลังพิเศษ มีมาก พวกเขาจะทยอยปรากฏตัวให้คนเลือก


อย่างแรกที่ท่านควรทราบในช่วงเวลาแห่งการเลือกสรรค์นี้คือ ผู้มีบุญบารมี "จำนวนมาก" มากทีเดียว เรียงคิวกันยาวเหยียดเลย จะออกมาปรากฏตัวให้ท่านเลือก ผ่านทางใดทางหนึ่ง เช่น บางท่านไปสมัคร สส. ให้ท่านเลือก, บางท่านไปแข่งกีฬา ให้ท่านร่วมเชียร์, บางท่านไปสมัครประกวดร้องเพลง ให้ท่านเลือกโหวต ฯลฯ ท่านไม่ควรเลือกแบบเล่นๆ ละเพราะมันคือ "กรรม" ที่จะมีผล "ผูกพันธ์ท่านและเขาด้วย" เช่น การที่ท่านเลือกโหวตผู้แข่งขันร้องเพลงคนหนึ่ง ด้วยใจที่ไม่เป็นธรรม ลำเอียงท่านก็ได้ทำกรรมร่วมบารมีกับเขาแล้ว ร่วมส่งเขาขึ้นไปให้ได้ชัยชนะแล้วและท่านก็ได้เลือกเขาคนนั้นแล้ว เอาละ ดังนั้น เมื่อท่านได้มีโอกาสเลือกแล้ว ก็อย่าทำเป็นเล่นไป เพราะท่านได้ทำกรรมร่วมกับเขา เพื่อส่งเขาให้ได้ชัยชนะและเดินหน้าต่อไปอีกด้วย เมื่อท่านมีสิทธิ์เลือก ก็จงใช้สิทธิ์นั้นด้วยความรอบคอบเสียหน่อย อย่าใช้สิทธิ์ไปด้วยอารมณ์เพียงชั่วครู่ละ!



ไม่มีใครดี-เลว ไปกว่าใคร แต่จะมี "ยุคสมัย" ของตนที่ต่างกัน


ต่อไปที่ท่านควรทราบ คือ โลกกำลังต้อนสัตว์โลกให้กลายเป็น "สัตว์สังคม" และจะมีผู้นำและผู้ตามเกิดขึ้น โดยผู้นำแต่ละคนจะมี "ยุคสมัยของตน" ไม่มีใครดีหรือเลวไปกว่าใคร เพียงแต่มีรายละเอียดในยุคสมัย ที่แตกต่างกันไปเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นพระสมณโคดม ได้นิพพานเร็วกว่าพระศรีอาร์ฯ แต่จะต้องมาใน"ยุคเข็ญ" ในขณะที่พระศรีอาร์ฯ ได้นิพพานทีหลัง แต่จะได้มาในยุคอุดมสมบูรณ์เป็นต้น ดังนั้น ท่านก็ไม่ควรยกเจ้านายตัวเองไปข่มใครเขา เพราะทุกคนต่างมีดีในตัวที่แตกต่างกัน ก็เท่านั้นเองและทุกคนเมื่อได้เลือกแล้ว ก็ควร "พอใจและยอมรับในสิ่งที่ตนได้เลือกแล้วนั้น เช่น บริวารของพระสมณโคดมได้เลือกท่านไปแล้วก็ควรยอมรับความจริงว่าจะได้เกิดในยุคเข็ญ ได้เร็วกว่าแต่ได้น้อยกว่า ได้ยุคที่ไม่ดีนัก ยากเข็ญ ก็ต้องปรับตัวให้ได้เพื่อยอมรับความจริงให้ได้ ไม่ใช่เห็นท่านอื่นมีบุญบารมีมากกว่าแล้วก็เตลิดเปิดเปิงตามก้นเขาไป อันนี้ ไม่ควร เอาละ สรุปคือ ท่านมีสิทธิ์เลือกผู้นำคนไหนก็ได้ทั้งนั้น แต่เมื่อเลือกแล้วก็ควรที่จะยอมรับความจริงหลังจากที่ได้เลือกแล้วด้วย แต่ละท่านก็มีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน "ตาดีได้ ตาร้ายเสีย" ฉลาดก็เลือกได้ของดีแต่ถ้าหลงโง่มากเกินไป ก็อาจได้ของไม่ดี ก็ได้ เอาละ ก็เลือกตามสบายก็แล้วกัน ต่อไป จะมี "ผู้นำ" อีกมากออกมาให้ท่านเลือก



เมื่อท่านเลือกแล้วท่านจะมี "ตำแหน่งที่นั่ง" และท่านจะเปลี่ยนได้ยาก


ต่อไปที่ท่านควรทราบ คือ เมื่อท่านเลือกเขาแล้วและผู้นำคนนั้นยอมรับท่านด้วย ท่านก็จะได้นั่งในตำแหน่งทางธรรมเฉพาะตัวที่เปลี่ยนได้ยากเช่น ตำแหน่ง "พุทธบิดา" อย่างนี้ เลือกแล้ว นั่งแล้ว ลุกยาก เปลี่ยนได้ยาก ต้องนั่งยาวไปแต่ถ้าเปลี่ยนแล้วอาจได้อะไรที่แย่กว่าเก่าก็ได้ ดังนั้นควรคิดให้ดีๆ ด้วย เอาละ ตอนนี้ โลกกำลังเข้าสู่ช่วงนี้ ท่านเองก็กำลังจะหา "ผู้นำ" อยู่ บางท่านอยากจะเป็นผู้นำเสียเอง แต่ไปได้ไม่ถึง เป็นได้ก็แค่ "เทวทัต" เท่านั้นเอง อย่างนี้ก็มี เอาละ ท่านเลือกกันเอง เลือกให้ดีละเพราะมันมีผลต่อตัวท่านเอง มากเลยทีเดียว "ตาดีได้ ตาร้ายเสีย" เพชรมีค่าแต่ห่อหุ้มด้วยผ้าขี้ริ้วยังมี ในขณะที่อิฐไร้ค่าอาจอยู่ในกล่องงดงามที่สวยหรู ก็ได้ ทีนี้ ท่านต้องเลือกทั้ง "ผู้นำ" และ "ตำแหน่ง" ของท่านเองด้วย เช่น ตำแหน่งอัครสาวกเบื้องขวา, เบื้องซ้าย, ผู้มีฤทธิ์ - ผู้มีปัญญามาก, ผู้มีความน่าเลื่อมใสมาก ฯลฯ อะไรก็แล้วแต่ท่าน จองที่นั่งแล้วก็ทำหน้าที่ของท่านซะ ก่อนที่คนอื่นจะมาจองไปเสียก่อน แล้วท่านต้องมาเสียใจภายหลัง เอาละ การเลือกผู้นำ มันก็เหมือนการ "ซื้อหุ้นเหมือนกัน" นะบางทีหุ้นอาจจะราคาตกและดูแย่มากในช่วงเวลาหนึ่ง แล้วมันก็พุ่งขึ้นสูงในเวลาต่อมาก็มี, หุ้นบางตัวดูดีมากในช่วงเวลาหนึ่ง แต่พอสถานการณ์เปลี่ยนไป ราคาตกเลย ก็มี ช่วงโอกาสทองของท่าน ก็คือ การเลือกซื้อหุ้นในช่วงเวลา "ราคาตก" และค่อยทำกำไรในช่วงราคาขึ้น อย่าแห่ตามกันมาก เพราะท่านอาจจะต้องซื้อหุ้นในขณะที่ราคามันแพงเสียแล้ว โอเคนะ



"ผู้นำ" เหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งทางการเมืองการปกครอง ก็ได้


ต่อไปที่ท่านควรทราบ คือ ผู้นำทั้งหลายเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งเป็นผู้นำทางการเมืองการปกครองก็ได้ เขาสามารถบำเพ็ญบารมีได้ทุกวงการ เช่น วงการบันเทิง, วงการกีฬา, วงการศิลปะฯ, วงการศาสนา, วิทยาศาสตร์ ฯลฯ ก็ได้ทั้งหมด ท่านทั้งหลายจะมี "บุญบารมีสัมพันธ์กับเขาได้ด้วยการสร้างบุญบารมีร่วมกัน" เช่น บางคนร่วมตัวกันสร้างวัดแต่บางคนรวมกันสร้างเว็บทางศาสนา ฯลฯ ได้ทั้งหมด แต่การสร้างบุญบารมีของท่าน จะเป็นตัวกำหนดท่านเองว่าท่านจะได้นั่งตำแหน่งใด ถ้าท่านงกขึ้เหนียว หลงจะเอาบุญมาก ทำแต่พระที่น่าศรัทธา (กะว่าจะได้บุญคืนมาเยอะๆ) แต่ท่านพลาดโอกาสทองไปก็แล้วแต่ นั่นท่านทำของท่านเอง เอาละ อย่ายึดแต่ว่าต้องทำกับพระเท่านั้น บางท่านก็เป็นผู้ให้การสนับสนุนในวงการกีฬา ก็มี เยอะแยะไป เขาทุ่มเงินให้ทีหนึ่งเป็นล้าน ก็มี ไม่ได้ยึดว่าจะต้องทำบุญกับพระเสมอไปหรอก เอาละ นี่คือ โอกาสทองนะ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย บางคนทำบุญด้วย "ดอกบัวดอกเดียว" ได้เป็นถึงนิตยโพธิสัตว์เพราะอะไร ก็ลองนึกเอาเอง ในขณะที่ใครบางคนทำบุญเป็นล้านๆ แต่ได้แค่สวรรค์ชั้นมาร ก็มีละ ของแบบนี้ มันสอนกันไม่ได้ บอกให้กันไม่ได้ครับ



"ผู้นำ" เหล่านี้ จะสร้างบุญบารมีใหญ่ แต่พวกเขาจะขาดแคลน ทำไม?


ต่อไปที่ท่านควรทราบ คือ ผู้นำเหล่านี้จะบำเพ็ญบารมียิ่งยวด และสร้างบารมีครั้งใหญ่ ทว่า พวกเขาล้วนถูกกำหนดให้ขาดแคลนไปหมด ทำไมหรือ? ก็เพื่อให้เกิด "โอกาสทอง" ให้ท่านได้เข้าร่วมบุญบารมีกับเขาได้ไงละ ถ้าเขาสมบูรณ์พร้อมหมดแล้ว ท่านจะไม่มีโอกาส ได้ทำบุญกับเขาเลย เอาละ เมื่อเขาขาดแคลนและท่านมีมาก อย่างกเกินไป เพราะอย่างที่บอกแล้วแค่ "ดอกบัวดอกเดียว" ยังส่งผลให้ได้ถึง "นิตยโพธิสัตว์" ได้นี่มันไม่จำเป็นต้องรวยหือใช้ทรัพย์อะไรมากมายเลย ทว่า เมื่อท่านได้มาถึงตัวผู้นำช้าไป เหมือนหุ้นขึ้นราคา ท่านไม่อาจทำบุญด้วยดอกบัวดอกเดียวได้อีก ท่านอาจต้องทำบุญทีหนึ่งด้วย "ทองคำสักพานหนึ่ง" ก็อาจเป็นได้เอาละ ไม่อยากพูดมากเลย เดี๋ยวจะหาว่าเราลำเอียง บอกมากเกินไป โกงให้ใครบางกลุ่มได้บุญบารมีมาก แต่บางกลุ่มกลับไม่ทราบอะไรเลย อันนี้ก็ไม่ดีอีกเหมือนกัน ผมเห็นมาเยอะมากคนที่เอาแต่หลงว่าตัวเองรวยสุดท้ายได้ทำบุญ "ปลายน้ำ" ต้องทำมากกว่าเขา ถึงจะได้นั่งตำแหน่งดีๆ สักหนึ่งตำแหน่ง (เพราะตำแหน่งดีๆ ผู้ที่มาก่อนเขาได้ไปหมดแล้ว) ในขณะที่คนที่ไม่รวยอะไร แต่เพราะมีจิตใจดี ทำบุญไม่คิดอะไร ไม่ทันคิดด้วยว่าให้ใครแล้วจะได้บุญกลับมาคุ้มใหม? บางทีโชคดี ได้ทำบุญกับผู้มีบารมีมากไปก็มี เพราะอะไร? เพราะใจของเขาไม่คิดมาก ทำบุญไม่เลือก ใครลำบากมาก็ช่วยไปหมด จึงมีโอกาสมากให้แก่ตัวเอง ในขณะที่บางคน จำกัดตัวเองให้ต้องทำบุญในวงบุญแคบๆ เลือกมากไป และพลาดโอกาสดีๆ ไปก็มีครับ



"ผู้ร่วมบุญบารมี" จะต้องสร้างบุญบารมี "ไต่ระดับขึ้นมา" จึงจะได้พบ


ต่อไปที่ท่านควรทราบ คือ "ผู้มีบุญบารมี" จะมีระดับที่ต่างกันด้วยแต่จะมี "ตัวตน" ในระดับล่างรอท่านอยู่ ให้ท่านสร้างบุญบารมีกับเขาก่อนจึงจะ "ผ่าน" และ "เลื่อนชั้น" มาถึง "ผู้มีบุญบารมีระดับสูง" หรือตัวตนที่อยู่ในระดับที่สูงขึ้นได้ ยิ่งตัวตนในระดับที่สูงก็ยิ่งยาก เพราะเขาจะทราบอะไรมากกว่าตัวตนในระดับที่ต่ำกว่า ในขณะที่ตัวตนในระดับที่ต่ำกว่านั้นจะ "รับง่าย" หรือ "รับการช่วยเหลือแบบไม่ค่อยเลือก" อย่างนี้ ก็มี ท่านจึงต้อง "ไต่ระดับจากตัวตนระดับล่างขึ้นมาก่อน" ซึ่งบางครั้ง ท่านอาจได้เจอตัวตนที่แย่มากของเขา เช่น ตัวตนที่ชอบหลอกเอาเงินคนอื่น แบบนี้ก็มีถ้าท่านยังไม่ละความพยายาม ท่านก็อาจจะได้พบตัวตนในระดับที่สูงของเขาต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่อง "บุญสัมพันธ์ในอดีต" อีก เช่น บางคนอาจจะได้เคยสร้างบุญบารมีมากร่วมกันไว้ เช่น พระพี่นางสุพรรณกัลยาฯ ของพระนเรศวร เมื่อได้สร้างบุญบารมีร่วมไว้มาก ก็จะนั่งแท่นลำดับที่หนึ่งก่อน แต่ถ้าชาตินี้ "มัวหลง" อยู่ ไม่ทำหน้าที่ ก็ตกอันดับได้เหมือนกัน เปิดโอกาสให้ผู้อื่นที่รอนั่งแท่นนี้ ได้มาบำเพ็ญบารมีได้ นี่คือ การเปิดโอกาสนะคิดดู ในบางชาติบำเพ็ญบารมีมากขนาดยอมพลีกายถวายชีวิตกันเลยพอมาชาตินี้ หลงลืมกัน มันก็ "พลาดโอกาส" กันได้ เปิดโอกาสให้คนอื่นเขาได้มาบำเพ็ญบ้าง น่าเสียดายมั้ยละ? โอเค ทุกคนมีสิทธิ์เลือกเบื่อผู้นำเคร่งครัด ไปเลือกผูนำที่ตามใจ แล้วหลงกันยกกลุ่มไม่ได้นิพพานเลย ก็อย่ามาโทษกัน ก็แล้วกัน คนอื่นเข่าก็อยากได้ตำแหน่งทางธรรม รออยู่เต็มไปหมด



ผู้นำแต่ละท่านอาจมี บุคลิกหรือสไตล์ ที่แตกต่างกัน จนไม่น่าเชื่อถือก็มี


ต่อไปที่ท่านควรทราบ คือ ผู้นำบางคนมีบุคลิกที่ไม่น่าเชื่อถือ แต่มันก็เป็นแค่บุคลิกเท่านั้นเอง ซึ่งสิ่งนี้ ผู้บำเพ็ญบารมีร่วม จะ "สอบผ่าน" เพราะมีความสัมพันธ์ร่วมกันมาในอดีตชาติ รู้ใจกันดี ต่อให้ดูไม่น่าเชื่อถือแต่ ก็มี "สายสัมพันธ์ในอดีตชาติ" ผูกพันกันไว้ ทำให้ไม่ลืมกัน ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้ "พวกเขามีโอกาสได้ร่วมสร้างบุญบารมีกันได้เสมอๆ" ในขณะที่คนที่ไม่เคยใกล้ชิด ไม่ค่อยรู้จักก็จะไม่อาจจดจำลักษณะเฉพาะหรือบุคลิกที่ไม่ดีเหล่านี้ได้ พวกเขาก็จะพลาดโอกาสทองไป (ไม่เช่นนั้น คนรวยก็ได้ทำบุญบารมี แย่งคนที่ไม่ค่อยมีเงินไปหมด ใช่มั้ยละครับ) การปกป้องผู้ที่ได้ร่วมสร้างบารมีร่วมกันมานั้น "ผู้นำ" ควรทำอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้ได้เชื่อมต่อสายสัมพันธ์บุญบารมีกันยาวนานต่อไป ดังนั้น ผู้นำ จึงต้องมีสิ่งที่ "ไม่สมบูรณ์แบบ" บางประการ ไว้เพื่อ "คัดเลือกคนที่จริงใจต่อเขา" ด้วย เพื่อจะได้พบเจอคนที่จริงใจและร่วมสร้างบุญบารมีกันมานั้นจริงๆ


ขอพลังแห่งพระบิดาจักรวาล จงช่วยให้ท่านพบผู้นำที่ต้องการ สวัสดี



11 ส.ค. 2555


"เสียงจากพระบุตร"
รับสื่อสารโดย


瑠璃王

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 comments:

Post a Comment