ทุกส่วนในบล็อกนี้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อุทิศแล้วเพื่อปวงชน. Powered by Blogger.
RSS

โลกกำลังถูกสร้างใหม่ให้มี "พระเจ้า" และมนุษย์โลกเหนือกว่าเทวดา?

สวัสดีครับ วันนี้ผมขอพูดเรื่องการเลื่อนระดับของโลก ซึ่งจะเกิดจากการ "สร้างโลกใหม่" แต่ไม่ได้ใช้การทำลายโลกเก่านะครับ เป็นวิธียกระดับขึ้นของโลกเก่า นั่นแหละเพื่อให้เกิดโลกใหม่ขึ้นโดยไม่ต้องมีการทำลายล้างโลกเก่าเลย และผลที่ได้คือ โลกนี้จะได้มี "พระเจ้าดวงดาว" เหมือนดาวอื่นเสียทีและมนุษย์โลกจะเป็นรูปธรรมชีวิต ที่มีวิวัฒนาการสูงสุดเหนือกว่าเทวดาอีกด้วยนะครับ เป็นไปได้อย่างไร? เอาละ ผมจะเล่าให้ฟังแบบสบายๆ เชิญอ่านได้ตามสบายครับ


ดาวดวงอื่นล้วนมี "พระผู้เป็นเจ้าสูงสุด" ยกเว้นดาวโลกที่ยังไม่มีเลย?


อย่างแรกที่ท่านควรทราบก่อนคือ "พระเจ้า" ที่ท่านรู้จักในศาสนาต่างๆ บนโลกนั้นล้วนไม่ได้อยู่ในโลกธาตุนี้เลย พระเจ้าเหล่านั้นล้วนสถิตย์อยู่ใน "ดาวดวงอื่น" หรือ "โลกธาตุอื่น" ทั้งสิ้น เพราะโลกนี้ที่มีสวรรค์ทั้งหกชั้นนั้นไม่มีชั้นไหนเป็นที่สถิตย์ของพระเจ้าดังกล่าว ดังนั้น "พระเจ้า" จึงอยู่ต่างดาวทั้งสิ้น ส่วนดาวโลกดวงนี้ ก็ยังไม่เคยมีพระเจ้าเลย ดังนั้นสวรรค์แต่ละชั้นจึงปกครองแยกกัน เจ้าสวรรค์แต่ละชั้นไม่ขึ้นแก่กันและโลกก็ขาด "เอกภาพ" มานาน นั่นทำให้โลกมีความยุ่งเหยิงมากไปด้วยและหลังจากพระพุทธเจ้าได้บังเกิดขึ้นบนดาวโลกนี้แล้วแต่ท่านยังไม่ได้นิพพานทั้งหมด คือ นิพพานเฉพาะบางส่วน ส่วนของขันธ์ห้าโดยรอบ ก็เท่านั้น ทำให้เหลือ "มโนธาตุ" อยู่ ดั่ง "แสงแห่งธรรม" ที่ยังไม่ดับลับหายไป และยังโปรดสัตว์อยู่ต่อไปจนกว่าจะสิ้นอายุพุทธกาล 5,000 ปีดังนั้น ท่านจึงสามารถโปรดสัตว์ได้ทั้งดาวโลกนี้ และมีสถานะสูงสุดพอที่จะเป็น "พระเจ้าแห่งดาวโลกดวงนี้" ได้ เพื่อให้ดาวโลกดวงนี้ มีศูนย์กลางเป็น "แสงแห่งธรรม" ทำให้เกิดเอกภาพในการดำรงอยู่ร่วมกันนั่นเอง และด้วยวิธีนี้ จะส่งผลให้โลกได้รับการยกระดับขึ้นทัดเทียมกับดาวดวงอื่นๆ อีกด้วย (ดาวดวงอื่นมีพระเจ้า ดาวโลกนี้ก็จะมีพระเจ้าเช่นกัน)



"มนุษย์โลก" คือ รูปธรรมชีวิตที่มีวิวัฒนาการสูงสุด ยิ่งกว่าเทวดาเสียอีก


ต่อไปที่ท่านควรทราบคือ มนุษย์โลกจะได้รับการยกระดับขึ้นเหนือกว่าสัตว์อื่นในดาวโลกดวงนี้ หมายความว่ามนุษย์โลกจะมีวิวัฒนาการ และมีความศักดิสิทธิ์เหนือกว่าเทพเทวดาเสียอีก เพราะอะไร? เพราะสวรรค์ทั้งหกชั้นนั้นจะมีรูปธรรมชีวิตที่มีวิวัฒนาการสูงสุดได้เพียงจิตวิญญาณโพธิสัตว์ก็ดีมาร ก็ดี แต่มนุษย์จะมีพัฒนาการของจิตวิญญาณไปได้ไกลกว่าเทวดา คือไปได้ถึง "พุทธะ" ทีเดียว เพราะสวรรค์ทั้ง 6 ชั้นนั้น ไม่มี "พุทธะ" ไม่ใช่ที่อยู่ของพุทธะ เพราะดาวโลกดวงนี้ยังไม่ใช่ "พุทธเกษตร" ดังเช่น สุขาวดีนั่นเอง ดังนั้น สวรรค์ทั้งหกชั้นจึงยังไม่มีพุทธะเลย ทว่า มนุษย์โลก ต่างไปจากเทวดาทั้งหกชั้นเพราะเขาสามารถ "เลื่อนระดับจิตวิญญาณ" สูงที่สุดได้ถึง "พุทธะ" ทีเดียว และจะมีพุทธะเกิดขึ้นในร่างสังขารมนุษย์มากมายดังนั้น โลกนี้จึงจะได้รับการยกระดับให้ทัดเทียมกับดาวที่มีวิวัฒนาการสูงๆ เช่น "พุทธเกษตร" อื่นๆ ได้ แต่พุทธะของดาวโลกนี้จะเป็นพุทธะบนพื้นดินดังนั้น จึงกล่าวว่า "มนุษย์โลกจะถูกสร้างใหม่" ให้มีวิวัฒนาการสูงที่สุดในดาวโลกแห่งนี้ เหนือกว่ารูปธรรมชีวิตใดๆ แม้แต่เทพเทวดาก็ยังไม่อาจที่จะมีวิวัฒนาการได้ทัดเทียมกับมนุษย์ จะต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก่อน จึงจะมีวิวัฒนาการขั้นสูงถึง "พุทธะ" เหมือนดังเช่นมนุษย์โลกนั้นได้ ด้วยเหตุนั้น



ความเจริญของดาวโลกไม่ได้วัดที่ "วัตถุ" แต่ดูที่วิวัฒนาการด้านต่างๆ


ต่อไปที่ท่านควรทราบคือ การจะเลื่อนระดับโลกให้เข้าสู่ระดับมาตรฐานของ "สากลจักรวาล" ได้นั้น จำเป็นที่เราจะต้องใช้มาตรฐานของสากลจักรวาลเช่น การมีพระเจ้าสูงสุดปกครอง, การมีพุทธะบังเกิดขึ้นในดาวดวงนั้นจำนวนมาก, การมีวิทยาการที่เปิดกว้าง และเป็นสากลจักรวาล, การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับมิตรต่างดาว, การให้ความร่วมมือกับกิจกรรมซึ่งเป็นไปเพื่อ "สากลจักรวาล" ทั้งหมดทั้งมวล มิใช่เฉพาะดาวดวงใดดวงหนึ่งเท่านั้น เอาละ มาตรฐานที่ยกขึ้นมานี้เป็นเพียง "ตัวอย่างเบื้องต้น" เท่านั้น เพราะยังมีรายละเอียด ในเรื่องมาตรฐานของการเลื่อนระดับอีกมากมาย ที่ค่อนข้างมีความยุ่งยากซับซ้อนในการอธิบายและเพื่อไม่ให้ท่านสับสนจนเกินไป เราจะขอเว้นไว้ก่อนแต่จะขอสรุปสั้นๆ ว่ามาตรฐานในการวัดระดับของดวงดาวนั้น ไม่ได้พิจารณาที่ "วัตถุ" เป็นสำคัญ สิ่งนั้นเป็นเพียง "องค์ประกอบ" ที่ไม่ได้สำคัญมากเท่าใดนักสำหรับการยกระดับของดวงดาว สิ่งที่สำคัญก็คือ "วิวัฒนาการของจิตวิญญาณ" และรูปธรรมชีวิตทั้งหลายที่อยู่ในดาวดวงนั้นต่างหาก นั่นหมายความว่าถ้ามีการเลื่อนระดับของจิตวิญญาณมวลรวมของสิ่งมีชีวิตทั้งดวงดาวได้มากก็จะนับได้ว่า "ดาวดวงนั้นได้รับการเลื่อนระดับ" ขึ้นแล้ว อย่างแท้จริงได้



"ดวงดาวที่เจริญมาก" จะมีผู้เข้าถึง "สัจธรรมสากลจักรวาล" มาก


ต่อไปที่ท่านควรทราบคือ หนึ่งในมาตรฐานของการวัดระดับของดวงดาวที่สำคัญที่สุดคือ "จำนวนรูปธรรมชีวิตที่ได้เข้าถึงสัจธรรมสากล" ยิ่งมีมากเท่าใด ดาวดวงนั้นก็เลื่อนระดับได้สูงมาก ยิ่งมีน้อยเท่าใด ก็แสดงถึงภาวะตกต่ำของดาวดวงนั้นได้มาก อันจะส่งผลต่อการดำรงอยู่ร่วมกันของสัตว์ในดาวดวงนั้นอีกด้วย หมายความว่าในดาวดวงที่มีผู้เข้าถึง "สัจธรรมสากล" มาก ดาวดวงนั้น จะมีความเป็นอยู่ที่ดีไปไปด้วย ในขณะที่หากมีผู้เข้าถึงสัจธรรมสากลน้อย ดาวดวงนั้นก็จะมีความเป็นอยู่ที่ตกต่ำและยากลำบากไปด้วย และหากดาวดวงใดเสื่อมลงไปถึงขั้นไม่อาจจะให้เกิด "ผู้เข้าถึงสัจธรรมสากล" ได้อีกแล้ว มันก็จะถึงวาระ "ดับสลายของดาวดวงนั้นไปด้วย" ดังนั้น แสงแห่งธรรมจากผู้ที่เข้าถึงสัจธรรมสากลจึงจำเป็นมาก สำหรับดาวทุกดวง เพราะนั่นหมายถึงทั้งชีวิตและการดำรงอยู่ของสัตว์ทั้งปวงในดาวดวงนั้น ทีเดียว ในดาวบางดวง รูปธรรมชีวิตต่างๆ ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องหากินก็มีกินได้ด้วยผลบุญ เพราะความเจริญของดาวดวงนั้นไปถึงขั้นสูงสุดแล้วนั่นเอง เช่น ในดาวต่างๆ ที่เลื่อนระดับไปถึง "พุทธเกษตร" ได้นั้นล้วนแต่ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยยากเลย พวกเขาล้วนมีผลบุญได้เสพสุข ได้เสวยอยู่ยาวนานเช่นนั้น ดังนั้น ดาวโลกดวงนี้จึงยังห่างไกลไปจากดาวที่มีความเจริญแล้วอย่าง "พุทธเกษตร" ต่างๆ อีกมากมายนัก



"พระเจ้าจากดาวอื่น" ก็ล้วนรอให้เกิดมี "พระเจ้าแห่งดาวโลก" มานาน


ต่อไปที่ท่านควรทราบคือ พระเจ้าต่างดาวดวงอื่น ต่างก็ช่วยให้โลกนี้ได้มี "พระเจ้าประจำดาวโลกของตนเอง" ท่านต่างส่งพระบุตร ก็ดี, เทวทูต ก็ดี ลงมาเพื่อช่วยให้ดาวโลกดวงนี้เลื่อนระดับขึ้นไปจนถึงขั้นมีพระเจ้าของดาวโลกดวงนี้เอง เพื่อจะยกระดับจิตวิญญาณของรูปธรรมชีวิตทั้งหลายที่อยู่ในดาวโลกดวงนี้ต่อไป และดาวโลกดวงนี้จะได้ดำรงอยู่ได้เอง โดยมิต้องพึ่งพา "พระเจ้าจากดาวอื่น" อีกต่อไป แต่ด้วยเพราะดาวโลกดวงนี้มิได้เจริญถึงขั้นนั้น ยังเป็น "น้องเล็ก" ที่ยังต้องได้รับการโอบอุ้มค้ำชูจากพี่ใหญ่ จากดาวดวงอื่นๆ จากพระเจ้าในดาวดวงอื่นๆ อยู่ ดังนั้น โลกนี้จึงมี "มิตรต่างดาว" เข้ามาเยือนมากมายเพื่อ "ช่วยในการเลื่อนระดับของโลกนี้" นั่นเอง ซึ่งสิ่งสำคัญสิ่งแรก ก็คือ "ดาวโลกต้องมีพระเจ้าสูงสุด" ก่อน ซึ่งพระเจ้าสูงสุดนั้นจะต้องเกิดจาก "มนุษย์โลก" นี้ที่ได้เกิดมาบนโลกมีร่างสังขารเป็นมนุษย์โลก นั่นเอง ไม่อาจจะมาจากการอัญเชิญ สิ่งศักดิสิทธิ์จากดาวอื่น หรือพระเจ้าจากดาวอื่นลงมาปกครองได้ เพราะมันเป็นดาวคนละดวงกัน ดังนั้น จำต้องอัญเชิญพระเจ้าที่มาจากดาวดวงนั้นปกครองดาวดวงนั้นๆ ไม่อาจอัญเชิญพระเจ้าจากดาวดวงอื่นมาปกครองได้ ทั้งนี้ พระเจ้าจากดาวดวงอื่นๆ ก็ยังคงช่วยเหลือพระเจ้าแห่งดาวดวงนี้และดาวโลกดวงนี้ต่อไป จนกว่าดาวโลกดวงนี้จะสามารถเลื่อนระดับไปได้ด้วยตัวเองอย่างแท้จริง ในที่สุด ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ ย่อมจะเกิดได้ด้วย "ทุกคนร่วมมือกัน" อย่างแท้จริง ไม่อาจจะเกิดได้จาก "พระเจ้า" เพียงอย่างเดียวเท่านั้นเพราะ "ปรบมือข้างเดียว ย่อมไม่ดัง" ใช่หรือไม่?



"กระบวนการสร้างโลกใหม่" โดยไม่ต้องทำลายล้างโลกใบเก่าคืออะไร


ต่อไปที่ท่านควรทราบคือ ในกระบวนการสร้างโลกใหม่ให้เป็นไปดังที่ได้อธิบายมานั้น มิใช่กระบวนการทำลายล้างโลกเก่าเพื่อสร้างโลกใบใหม่ขึ้นมาแต่อย่างใด แต่เป็นการ "สร้างโลกใหม่จากโลกใบเก่าเดิมเป็นรากฐาน" ที่เรียกว่า "การเลื่อนระดับ" นั่นเอง คือ การพัฒนาโลกใบเก่าให้มีวิวัฒนาการสูงขึ้นไปโดยไม่ต้องทำลายล้างโลกใบเก่าซึ่งในกระบวนการนี้จะมี "ตัวเร่งปฏิกริยา" เช่น การเกิดภัยพิบัติ บ้าง เพื่อให้มนุษย์โลกร่วมมือกันในกระบวนการนี้อย่างแท้จริง ไม่หลงโลก, ไม่เห็นแก่ตัวมากเกินไปดังนั้น ท่านจึงเห็น "ภัยพิบัติ" เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการนี้ด้วย บ้าง แต่ก็ไม่มากจนเกินไป เพราะสิ่งนี้เข้ามาช่วย เข้ามาเร่งเร้า เท่านั้นเอง มิได้มาเพื่อทำลายล้างแต่อย่างใด เพราะดังที่ได้กล่าวแล้วว่าเราจะสร้างโลกใหม่จากรากฐานคือ โลกใบเก่า ใบเดิม ไม่ใช่การทำลายล้างโลกใบเก่า เพื่อจะสร้างโลกใบใหม่แต่อย่างใด ซึ่งในกระบวนการนี้ "ทุกภาคส่วนในโลก" ก็ได้ร่วมลงมือไปแล้วหลายอย่าง หลายท่าน หลายประเทศ ดังที่ท่านได้เห็นว่ามีบทความเกี่ยวกับเรื่องการเลื่อนระดับของโลก ที่เขียนโดยชนชาติอื่นที่ไม่ใช่ประเทศไทย ก็มี ใช่หรือไม่ หรือเรื่อง "ภัยพิบัติ" ที่ตอนนี้ ก็กลายเป็นเรือง "สากล" ที่ทุกประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญแล้ว และยังมีเวทีการประชุมว่าด้วย "โลกร้อน" เพื่อหยุดวิกฤติการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับโลกอีกมากมายหลายเวทีด้วยกันทีเดียว เอาละ สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ลอยๆ แต่มันได้ถูกปฏิบัติให้เป็นจริง "มานานแล้ว" และกำลังดำเนินการทั่วโลก ต่อไป



สุดท้ายนี้ เราหวังว่าท่านผู้มีเกียรติ์ทั้งหลาย จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก ในการสร้างโลกใหม่ให้มีมาตรฐานทัดเทียมกันกับ "สากลจักรวาล" พร้อมกันกับเรา เพราะภารกิจสำคัญครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก มันเป็นภารกิจที่เรารอเวลามานานเหลือเกิน และเราได้วางรากฐาน หว่านเมล็ดพันธุ์เพื่อรอคอย "การเก็บเกี่ยวครี้งนี้" มายาวนานเหลือเกิน เพราะผลที่ได้นั้นมันคุ้มค่ายิ่งกว่าครั้งใด เมื่อเทียบกับภารกิจอื่นๆ ที่ท่านเคยได้รับเมื่อครั้งอยู่บนดาวดวงอื่น ก็ดี, หรือลงมายังดาวนี้ในอดีตชาติที่ผ่านมา ก็ดี ฯลฯ มันไม่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่งไปกว่าครั้งนี้อีกแล้ว แม้แต่ "ขุมพลังต่างๆ บนโลก" ที่ได้รับการปกป้อง "สงวนไว้" ก็ยังได้รับการอนุญาติให้ "เปิดขึ้น" เพื่อใช้ในภารกิจนี้ เป็นการเฉพาะดังนั้น เราหวังว่าท่านผู้มีเกียรติ์ทั้งหลาย จะไม่ "ทิ้งโอกาสอันยิ่งใหญ่หาไม่ได้อีกนี้" ไปอย่างน่าเสียดาย ในเมื่อมันเป็นของท่านแล้ว และในเมื่อท่านเองก็สามารถ "ร่วมกันสร้างโลกใหม่นี้ได้ร่วมกัน" ไม่ยากเลยดังนั้น เราหวังว่าท่านจะมีความยินดี และมีพลังร่วมที่จะทำให้ภารกิจนี้สำเร็จไปพร้อมกันกับเรา ขอแสดงความยินดีและฉลองชัยชนะล่วงหน้าแก่ท่านผู้มีเกียรติ์และเหล่า "อัศวินผู้กล้าแห่งจักรวาลทั้งหลาย" เชียร์!


ขอพลังแห่งพระบิดาจักรวาล จงปลุกดวงใจที่หาญกล้าแก่ท่าน สวัสดี



5 ส.ค. 2555


"เสียงจากพระบุตร"
รับสื่อสารโดย


瑠璃王

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 comments:

Post a Comment