ทุกส่วนในบล็อกนี้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อุทิศแล้วเพื่อปวงชน. Powered by Blogger.
RSS

มนุษย์ที่ใช้ "พลังงานระดับสูง" จะไม่มีภาระหน้าที่ทางโลกเหมือนปุถุชน?


สวัสดีครับ วันนี้มีเกร็ดความรู้เล็กน้อยมาฝากเพื่อความเข้าใจในเรื่อง "พลังงานที่ส่งผลต่อการดำรงชีพที่ต่างกันของมนุษย์" นะครับ สรุปก็คือ มนุษย์ที่มีพลังงานในระดับชั้นที่สูงมากๆ จะไม่มีภาระหน้าที่ทางโลกแบบปุถุชนนะครับ ดังนั้น ท่านจึงมักให้ "บวชพระ" เสีย เพื่อให้ทางโลก เห็นเปลือกนอกเข้าใจสมมุติ และอยู่ร่วมกันได้ ไม่ล่วงเกินกันและกันครับ เอาละ เรามาเข้าเนื้อหารายละเอียดแบบง่ายๆ กันครับ


ระดับชั้นพลังงานที่เกี่ยวพันกับ "ภารกิจทางโลก" คือ ไม่เกินชั้นที่สาม


อย่างแรกท่านต้องเข้าใจก่อนว่า โลกนี้มีระดับชั้นของพลังงานหลายชั้นและมันส่งผลต่อการดำรงชีพของมนุษย์ที่มีพลังงานต่างชั้นกันด้วย เช่น พลังงานในระดับไม่เกินสวรรค์ชั้นที่สอง ก็จะอยู่ภายใต้การดูแลของท้าวจตุโลกบาล แหม แค่ชื่อก็บอกแล้วครับว่ามีหน้าที่อนุบาลโลกโดยตรงซึ่งมีด้วยกัน 4 ท่าน นั่นเอง ในนี้ก็มีพระอินทร์ผู้อยู่สวรรค์ชั้นที่สองด้วย ดังนี้ จึงสรุปได้ง่ายมากครับว่า พลังงานในระดับสวรรค์ชั้นที่สองของโลกนั้นมีความเกี่ยวพันกับภารกิจทางโลกมาก ในขณะที่ระดับชั้นที่สาม จะมีสองแบบคือ 
1. แบบพระภิกษุ อันนี้ไม่มีความเกี่ยวพันกับภารกิจทางโลกแล้ว 2. แบบ "พระเจ้าจักรพรรดิ" ซึ่งอยู่สวรรค์ชั้นที่สาม อันนี้ ก็ยังมีเกี่ยวพันอยู่บ้าง แต่ "เฉพาะบางยุคสมัย" เท่านั้น นะครับ ผิดยุคผิดสมัยไม่ได้เลยส่วนพลังงานระดับชั้นที่สี่ (ดุสิต ที่อยู่ของเซียนและพระโพธิสัตว์) ก็ไม่มีภารกิจเกี่ยวพันกับทางโลกแล้วแต่ท่านมีบารมีที่จะทำหรือไม่ทำก็ได้ครับทางท่านจะทำก็ได้ แต่ต้องมี "ผู้ทำการอัญเชิญก่อน" นะครับ ไม่งั้น ท่านก็ทำกิจไม่ได้ อย่างนี้ก็มีครับ ท่านเหล่านี้ เหนือแล้ว พ้นแล้ว จากทางโลกครับ นอกจากนี้ ยังมีเทพและมารชั้นห้าและหกขึ้นไปอีก ทั้งสองชั้นนี้ไม่มีภารกิจทางโลกครับ เกิดมาก็มีบุญเสวยเลย ไม่ต้องทำอะไร ว่างมากก็เอาเวลาไปแกล้ง, ไปทดสอบใจ, ไปขัดขวางการบำเพ็ญบารมีของคนอื่นเขา (แบบมาร) อีกแบบก็ทำตัวสูงไม่สนใจใคร และใครก็อย่ามายุ่ง แบ่งแยกตัวเองออกจากกลุ่มอื่นๆ (เทพชั้นที่หก) เสวยบุญของตนไป ไม่ไปยุ่งกับใครเขา อย่างนี้ก็อีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งพลังงานเหล่านี้ "มนุษย์ก็มีได้" ก่อนจะตายนะครับ มีได้จากการทำตัวเอง ทำให้พลังงานภายในนั้นพัฒนาขึ้นได้เมื่อพัฒนาไปเหมือนสวรรค์ชั้นใด จะมีวิถีชีวิตอยู่เหมือนสวรรค์ชั้นนั้นเลย "ไม่ต้องรอชาติหน้า" นะครับ มันเกิดขึ้น เป็นจริงทันที ในชาตินั้นเลยครับ


ระดับชั้นพลังงานที่เกี่ยวพันกับ "ภารกิจจักรวาล" คือ พลังจากต่างดาว


ต่อไปท่านต้องเข้าใจด้วยว่า ยังมีมนุษย์บางกลุ่มที่มีวิวัฒนาการทางพลังงานที่สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ อยู่ในโลกนี้ด้วย เช่น กลุ่มที่มีพลังงานเชื่อมโยงถึงดวงดาวต่างๆ กลุ่มเหล่านี้จะไม่มี "ภารกิจทางโลก" แต่จะมี "ภารกิจจักรวาล" แทนนะครับ พวกเขาจะไม่ทำงานแบบปุถุชน แต่จะมีหน้าที่ทำงานที่ได้รับมอบหมายจากจักรวาล จากดวงดาวของเขาในแบบต่างๆ ที่ไม่อยู่ในระบบรายได้หรือเงินเดือนนะครับ อย่างไรก็ดี พวกเขาก็ยังต้องดำรงชีพในแบบมนุษย์โลก พวกเขาต้องได้รับการสนับสนุนจากมนุษย์โลกกลุ่มอื่นครับดังนั้น บางครั้ง พวกเขาก็อาจบวชเป็นพระ เพื่อให้ได้รับการสนุบสนุนนั้นๆ และจะได้ทำหน้าที่ของพวกเขาได้สะดวกยิ่งขึ้น (แต่ไม่ได้ทำหน้าที่ให้แก่พระพุทธศาสนาโดยตรง ก็มี) แน่นอนว่า การดำรงอยู่ในโลกของพวกเขาจึงยากลำบาก เพราะพวกเขาขาดพลังของโลก มีแต่พลังจากต่างดาวไงครับ ทำให้พวกเขาต้อง "ประสานงานหรือแลกเปลี่ยนผลประโยชน์" กับพวกมนุษย์โลกเพื่อการดำรงอยู่ของพวกเขา และด้วยจุดอ่อนนี้เอง ทำให้มนุษย์โลกบางกลุ่มที่มีความโลภ แสวงหาผลประโยชน์ จากกลุ่มที่มีพลังต่างดาว และส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ของพวกเขาในที่สุด เอาละ นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของปัญหาการทำหน้าที่ของผู้มีพลังต่างดาวเท่านั้นเพราะในภารกิจจักรวาลนั้น พวกเขายังต้องฟันฝ่าอุปสรรคอีกมากมายเกินกว่าปุถุชนจะคาดคิดได้ ดังนั้น จึงมีมนุษย์โลกจำนวนน้อยเท่านั้นที่จะประสานพลังกับต่างดาวได้อย่างแท้จริง และอุทิศตนทำกิจนั้นได้จริง



"วิวัฒนาการทางจิตวิญญาณ" ของมนุษย์ส่งผลต่อระดับของภารกิจ


ต่อไป สิ่งที่ท่านต้องเข้าใจคือ มนุษย์โลกแต่ละคนมีวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณที่แตกต่างกัน มนุษย์โลกที่มีวิวัฒนาการทางจิตฯ ต่ำ ก็จะปนอยู่ วนอยู่ ในเรื่องทางโลกมาก ไม่อาจจะหลุดพ้นจากวังวนทางโลกได้แต่มนุษย์ที่มีวิวัฒนาการทางจิตฯ สูง ก็จะไม่มีเรื่องทางโลกนัก เหมือนคนแก่ที่อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ต้องทำงานอะไรแล้ว ก็มี แต่แท้จริงแล้ว ไม่ใช่เขาไม่ได้ไม่ทำอะไรเลย เขาทำอยู่ แต่ทำใน ภารกิจของจักรวาล แทนซึ่งบางครั้ง ทำให้เขาเหมือนไม่ทำอะไรเพื่อโลกเลย หรือไม่มีผลงานที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้เลย ก็มี แต่หลายครั้งเขาได้ทำในระดับของพลังงาน นั่นเอง ซึ่งเป็นภารกิจชั้นสูงที่ทำได้ยาก และมีคุณค่าต่อโลก และจักรวาลนี้มาก มากเสียยิ่งกว่าภารกิจทางโลกเสียอีก ดังนั้น ไม่ว่าท่านจะไปพบเห็นนักการเมือง สร้างผลงานเชิงรูปธรรมมากมายแค่ไหน นั่นยังเทียบไม่ได้กับการทำหน้าที่ของพวกเขา ผู้รับภารกิจจากจักรวาล นี้เลย เพราะอะไรหรือ? "ก็เพราะระดับมันต่างกัน" ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว นั่นเอง ทว่า ก็ไม่ใช่ว่ามนุษย์โลกทุกคนที่ไม่ทำอะไรนั้น กำลังทำภารกิจให้จักรวาลอยู่หรอกนะ จะเหมารวมง่ายๆ อย่างนั้นไม่ได้ มันต่างกันระหว่างคนที่ไม่ทำอะไรจริงๆ กับคนที่ไม่มีภารกิจทางโลก (แต่มีภารกิจจักรวาล)



30 ก.ค. 2555


"การสื่อสารขัดข้อง"
รับสื่อสารโดย


瑠璃王

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 comments:

Post a Comment