ทุกส่วนในบล็อกนี้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อุทิศแล้วเพื่อปวงชน. Powered by Blogger.
RSS

"เงาที่ติดตามคุณอยู่" เป็นเจ้ากรรมนายเวร หรือภูติผีปีศาจแบบใด?

สวัสดีครับ วันนี้ มีเรื่องเกร็ดเล็กๆ คือ เรื่องจิตวิญญาณที่มักติดตามเราเช่น เงาตามตัว ในทางอียิปต์โบราณเขาก็ จะนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของ เขาด้วย เรียกว่า Shadow เหมือนกับ ขันธ์ห้าในพระพุทธศาสนาเลย (แต่ไม่ ใช่ขันธ์ห้านะครับ) เอาละ ลองมาดูกัน ถึงรายละเอียดแบบง่ายๆ สบายๆ ครับ


คนที่หมดพลังบุญมีแต่พลังกรรมจะมี "เจ้ากรรมนายเวร" เป็นเงาตามตัว


อย่างแรก ผมอยากยกตัวอย่างกรณีที่ง่ายที่สุด ที่ท่านมีพื้นฐานความรู้กัน มาบ้างแล้วคือ "เงาในกรณีที่เป็นเจ้ากรรมนายเวร" นะครับ เขาจะมาถึงที่ ตัวเราได้ เมื่อเราหมดบุญ และมีกรรมเข้าถึงตัวครับ เขาจึงมาติดตามใกล้ๆ เรา เพื่อที่จะได้ทำให้เราได้รับเหตุเภทภัยต่างๆ ตามแต่อำนาจของพวกเขา จะสามารถดลบันดาลได้ครับ ดังนั้น เจ้ากรรมนายเวรก็มีหลายระดับนะครับ ถ้าเราไม่ยอมรับกรรมระลอกแรก เล่นงานเจ้ากรรมนายเวรไปหมดได้ แต่มี พลังกรรมอยู่ เรายังชำระสะสางไม่หมดพลังงานนั้นจะจูนเอาเจ้ากรรมนาย เวรกลุ่มใหม่ที่มี "อำนาจมากกว่ากลุ่มแรก" มาเรื่อยๆ เป็นลำดับไปครับ ถ้า เรายอมรับแต่โดยดี ก็จะได้รับเบาๆ ครับ แต่ถ้าเราดื้อไปเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลา ที่เราต้านทานพลังกรรมไม่ไหว มันจะเหมือนน้ำในเขื่อนที่ถูกขวางกั้นไว้ให้ นานก็จะมีมากขึ้น แรงขึ้น และเลวร้ายกว่าการยอมรับง่ายๆ เหมือนผ่อนส่ง ดอกเบี้ยเงินกู้ทีละน้อย ค่อยเป็นไปครับ มันจะโดนตูมเดียว แรงๆ ไปเลยพอ นึกภาพออกใช่ไหมครับ เอาละ นี่คือกรณีแรกที่เงาตามตัวเราเป็นลบต่อเรา


คนที่หมดพลังบุญและกรรมแต่มี "บารมี" จะมีเงาตามตัวเป็นอย่างไร?


ต่อไป ผมอยากยกตัวอย่างกรณีที่ไม่มีทั้งพลังกรรมและพลังบุญ แต่มี "บารมี" บ้างละ แล้ว "เงาตามตัวเขาจะเป็นอะไร?" คำตอบง่ายมาก ก็ คือ ไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวร และไม่ใช่เทพผู้อำนวยโชคดีครับ แต่จะเป็น "จิตวิญญาณ" ที่มาอาศัยบารมี ตามแต่บารมีนั้นจะสอดคล้องรับไว้ได้ เช่น ถ้าเป็นบารมีแบบพระกษิติครรภ์ก็จะรองรับ "สัตว์จากอบายภูมิ 4" ได้ครับ ได้ทั้ง สัตว์นรก, เปรต, อสุรกาย ฯลฯ เช่น พระที่มีจิตเมตตา มี บารมีแบบนี้ บางที ยังไม่ถึงวาระบุญจะเข้า เทพยังไม่มาประจำการณ์ ยังไม่มีเทพแบบเทพวานรมาช่วยดูแล แต่จะมีเปรต, สัตว์นรก ฯลฯ มา รายล้อมรอบได้ เมื่อมีคนไปทำบุญก็จะมีเปรตเกาะไปกับคนทำบุญ ซึ่ง ส่งผลให้คนทำบุญ ต้องมีชีวิตที่แย่ลง เช่น ประหยัดเกินไป, สมถะเกิน ไป คิดว่าดีและถูกต้อง ที่ไหนได้ เปรตครอบงำดลจิตดลใจให้ประหยัด แบบไม่ถูกวิธี ก็มีครับ อันนี้ ก็แตกต่างกันไปตามบารมีนะครับ บางท่าน ก็มีบารมีโปรดมาร, โปรดสัตว์ในภพมืด คนที่เข้ามาร่วมบารมีด้วย อาจ ได้รับมารแทรกร่างไปแทน ทว่า มารก็ยังดีกว่าเปรตนะครับ อย่างน้อย ก็เป็นผู้ทำบุญมาก มีบุญเลี้ยงตัวได้อยู่ เอาละ นี่แค่ยกตัวอย่างเท่านั้น


คนที่มีพลังบุญ (ไม่มีกรรม) แต่ไม่มี "บารมี" จะมีเงาตามตัวเป็นอย่างไร?


ต่อไป ผมอยากยกตัวอย่างกรณี คนที่มีพลังบุญเสวยอยู่ ยังไม่ได้รับกรรม ในช่วงนี้แต่ไม่มี "บารมี" เขาจะมี "เงาตามตัวเป็นอะไร?" คำตอบก็ง่ายนะ ครับ คือ เทพผู้อำนวยผลบุญให้นั่นเอง จะคอยตามมาทำหน้าที่อำนวยผล บุญให้ตามที่เขาควรจะได้รับนั้นๆ อันนี้ ก็คงไม่ต้องอธิบายมาก แล้วถ้าใน กรณีที่ผู้มีบารมี ตกเคราะห์ได้รับวิบากกรรมบ้างละ จะเป็นอย่างไร? อาทิ เช่น พระพุทธเจ้ามีกรรมถึงตัวท่านๆ ก็จะใช้บารมีเท่าที่มี สามารถทำให้มี กรรมแบบเบาบางลงได้บ้างนะครับเช่น ใช้ขันติบารมี อดทนต่อคนที่มาต่อ ว่าพระองค์ ไม่นานเท่าไรก็จบครับ แต่ถ้าไม่มีขันติบารมีคงจะว่าตอบโต้กัน ไปมาไม่รู้จบ กรรมที่จะเบา ก็คงหนักขึ้นใช่ไหมครับ อันนี้ เล่าเป็นของแถม ก็แล้วกัน เพื่อจะได้เห็นภาพรวมครบเหมือนได้ต่อจิ๊กซอว์ครบทุกตัวน่ะครับ


คนที่มีพลังบุญ (ไม่มีกรรม) และมี "บารมี" จะมีเงาตามตัวเป็นอย่างไร?


ต่อไป ผมอยากยกตัวอย่างกรณี คนที่มีพลังบุญเสวยอยู่ ยังไม่มีกรรมสู่ ตัวในช่วงนี้ และมี "บารมี" เขาจะมี "เงาตามตัวเป็นอะไร?" คำตอบก็คือ นอกจากเขาจะมีเทพอำนวยผลบุญให้แล้ว เขาก็จะได้เทพที่ติดตามร่วม บำเพ้ญบารมีด้วยครับ ไม่ใช่เทพมาแค่ช่วงหนึ่งแล้วหายไปตามแรงบุญ แล้ว อันนี้ แตกต่างจากท่านที่มีบารมีแต่พลังบุญยังไม่เข้านะครับ กล่าว คือ ถ้าท่านไปหาท่านที่มีบารมีเหมือนกันแต่คนหนึ่งไม่มีบุญ กรรมยังมา ถึงตัวท่านอยู่ ท่านก็อาจจะได้ "เปรต" กลับมาอยู่ด้วย ก็ได้ แต่ถ้าท่านนี้ (ผู้มีบารมี) อดทนเก็บตัวสักระยะ รอให้เสวยวิบากกรรมหมดแล้ว และมี พลังบุญเข้ามาแล้ว จิตวิญญาณชั้นต่ำ ก็จะไม่เข้ามาอีก แต่จะเป็นเหล่า เทพที่ดีเข้ามาแทน ถ้าเราไปพบท่านเหล่านั้นในช่วงนี้ เราก็จะได้พลังที่ ดีติดตามมาได้เหมือนกันนะครับ และจิตวิญญาณเทพที่ดีเหล่านี้ อาจจะ ดลจิตดลใจเราให้ติดตามท่านผู้นั้น เพื่อร่วมบำเพ็ญบารมีด้วยกันไปเลย ก็ได้ครับ ดังนั้น ผู้ปฏิบัติธรรม-บำเพ็ญบารมี บางท่าน แม้ว่าได้ถึงธรรม แล้ว บางท่านจำต้อง "เก็บตัว" สักระยะหนึ่งนะครับ รอให้วิบากกรรมได้ สิ้นไปก่อน แล้วผลบุญเข้าแล้วก็ค่อยออกไปโปรดสัตว์ ก็ได้ผลดีกว่าครับ


ท่านจะทราบได้ว่า "เงาตามตัวท่านเป็นอย่างไร?" ด้วยการสังเกตุดังนี้


ต่อไป ผมอยากจะแนะนำเทคนิกในการสังเกตุดูว่า "เงาติดตามตัวของ ท่าน" นั้นเป็นอะไร? เอาละ ง่ายมากเลย ท่านเคยสงสัยมั้ยว่า มันมีบาง อย่างเกิดขึ้นรอบๆ ตัวท่าน บ่อยๆ ซ้ำๆ และไม่รู้จะอธิบายเหตุผลอย่าง ไร? เช่น คนรอบข้างตัวท่านที่เข้าหาท่าน มักเป็นสตรีที่มีสามีแล้ว ทว่า พอเข้าหาท่านไม่นาน ก็จะมีเรื่องกับสามีและอาจถึงขั้นหย่าร้างกันเลย เช่นนี้บ่อยๆ พอเป็นหม้ายแล้ว ก็มาหาท่าน ท่านเจอแต่แบบนี้ รายล้อม รอบท่านไป ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็มี ประจำ? เอาละ นี่แหละ "เงาประเภท หนึ่ง" ที่ท่านมองไม่เห็น แต่เกิดขึ้นรอบตัวท่านจริงๆ อย่างในกรณีนี้ ก็ คือ "ผีแม่หม้าย" นั่นเอง เห็นชัดมั้ยครับ ทว่า เป็นจิตวิญญาณที่มีฤทธิ์ มากนะครับ ไม่เหมือน เปรต, ปอบ, กระสือ อันนั้นชั้นต่ำ ไม่ค่อยมีฤทธิ์ อะไรหรอก มีได้ พบได้ ในท่านที่มีบารมีแต่มีกรรมเสวยอยู่ ในพระบาง รูป มีคนไปรายล้อมท่านเยอะครับ แล้วทั้งหมดก็บ้าทำบุญ แต่มีจิตเป็น "มิจฉาทิฐิ" หลงทาง มีธรรมบิดเบือนผิดเพี้ยนหมดเลย เอาละ ทายสิ! ว่าท่านนี้มี "เงาตามตัวเป็นอะไร?" แหม ง่ายมากเลย "มาร" นั่นเอง ที นี้วัดของมาร ก็จะมีระเบียบเรียบร้อย สวยงามมาก สะดวก ครบครันไม่ ต่างจากสวรรค์ชั้นสูงสุด คือ ชั้นที่หกเลย นั่นแน่ ชัดมั้ยละครับ เอาละ ยังมีพระที่มี "เงาตามตัว" เป็นอะไรอีกหลายแบบนัก ดูไม่ยากแล้วใช่ มั้ยละครับ ทีนี้ ท่านก็ "คิดดีๆ เลือกดีๆ" ว่าพร้อมควรไปหาท่านเหล่านี้ แล้วหรือยัง? หรือควรรอให้ท่านผ่านพ้น "ช่วงเสวยกรรมไปก่อน" มั้ย?


ภูติในกายของท่าน (Ka) และ เงาตามตัว (Shadow) ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน


ต่อไป ท่านควรจะแยกแยะระหว่าง "ภูติประจำตัวของท่าน" และ "เงาที่ ติดตามท่าน" ให้ได้ สิ่งที่แยกได้ชัดที่สุดคือ "ภูติประจำตัวท่านจะอยู่ใน ร่างของท่าน" เขาก็คือ ท่านเองนั่นแหละ ที่ถอดกายทิพย์จรเข้าออกไป จากร่างได้ ส่วน "เงาที่ติดตามท่าน" นั้น ก็จะไม่อาจแทรกเข้ามาในร่าง ท่านได้ เขาจึงต้องแทรกในร่างของ "คนที่ติดตามหรืออยู่รายล้อมท่าน" แทน เช่น ถ้าพระรูปหนึ่งมีบารมี ทำให้เปรตตามขอส่วนบุญเป็นแถวๆ ก็ จะมีภูติในร่างแบบหนึ่ง ส่วนเปรตเหล่านี้เข้าร่างท่านไม่ได้ แต่จะคอยมา แทรกเข้าร่างของคนที่อยู่รายล้อมรอบตัวแทน หรือคนที่ไปทำบุญแล้วมี จิตเปิดรับท่านพอดี เปรตที่อยู่รอบๆ ก็แทรกเข้าได้ครับ ท่านพอจะเข้าใจ ถึง Ka และ Shadow แล้วใช่ไหมว่ามันไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ ยังมีคำ ว่า "Ba" ซึ่งไม่ได้อยู่ในร่างสังขารของท่าน แต่เป็นตัวตนในมิติที่สูงขึ้น ของท่าน ที่สว่างไสวคอบนำทางท่านอยู่เบื้องบน นั่นเอง หรือเทพประจำ ตัวของท่าน ก็ว่าได้ ท่านพอจะเห็นความสัมพันธ์ของจิตวิญญาณทั้ง 3 แบบนี้แล้วใช่หรือไม่? เอาละ ทีนี้ ท่านอาจมีประสบการณ์แบบว่าไปเจอ คนมีฤทธิ์มีบารมี เขาจี้ทักท่านว่าจะป่วย แล้วท่านก็ป่วยจริงๆ เลย บ้าง มั้ย? เอาละ บางท่านอาจมีญาณหยั่งรู้อนาคตทำนายแม่นได้จริง ทว่าก็ ไม่ใช่ทุกท่าน จริงอยู่ว่า "รูปการณ์เปลือกนอก" มันแสดงออกมาชัดเจน ว่าเขาทำนายแม่นยำ แต่แท้แล้วไม่ใช่เรื่องดวง และการทำนายเลยครับ มันคือเรื่อง "การกระทำทางพลังจิต" โดยตรง กล่าวคือ เขาจี้ทักคุณให้ เปิดรับ "จิตวิญญาณสัตว์นรก" ที่เป็นเงารอบตัวเขา คุณรับไปแล้วก็จะมี อาการป่วยเกิดขึ้นได้ ไม่ยากเลยครับ เอาละ คุณเข้าใจเรื่องพลังจิตมาก ขนาดนี้แล้วก็อย่าตกเป็นเหยื่อของ "นักพลังจิตด้านลบ" เหล่านี้เลยครับ


เงาตามตัว (Shadow) จะทำสิ่งที่ขัดแย้งหรือตรงข้ามกับท่านเพราะ?


สุดท้าย ท่านควรจะทราบคือ เงาตามตัวเหล่านี้ เขาไม่ใช่แสงสว่างใน ตัวท่าน เมื่อท่านสว่างไสวแล้ว ท่านคิดอย่างทำอย่างหนึ่งอย่างใดที่ดี งามมากมาย แต่เงาเหล่านี้คือสิ่งตรงข้าม ที่จะทำให้ท่านกระทำออก ไปแล้ว ไม่เป็นไปอย่างที่คิด มันจะตรงกันข้ามครับ เหมือนแสงกับเงา ไงละ เช่น เมื่อท่านปรารถนาดีอยากช่วยชาวบ้านอัมพวาให้มีรายได้ ต่อเนื่องทุกวัน (จากเดิมแค่วันหยุด) ท่านก็เลยคิดว่าจะสร้างโรงแรม ให้มีนักท่องเที่ยวาพัก จะได้มี "นักท่องเที่ยวมาประจำ" ตลอดทุกวัน ชาวบ้านก็ได้มีรายได้ต่อเนื่อง กิจกรรมตลาดน้ำ ก็จะได้มีทุกวัน นี่คือ การส่งเสริม อย่างที่ท่านคิดว่าดี ทว่า เมื่อมี "เงา" เหล่านี้มาร่วมด้วย ผลจะตรงข้ามเลยครับ เคยเห็นอะไรแบบนี้ไหมครับ เจตนาดี คิดดีแต่ ทำไม ตั้งใจทำดีแล้ว ผลออกมาตรงกันข้าม เอาละ "ฝากท่านไปเช็ค ดูเงาของท่านเองด้วย" ครับ ว่าตอนนี้ เงาของท่านเข้าข่ายเป็นอะไร?


ขอพลังแสงธรรมแห่งพระบิดาจักรวาล ช่วยคุณให้สว่างไสวขึ้น สวัสดี


7 ก.ย. 2555

"เสียงจากพระบุตร"
รับสื่อสารโดย

瑠璃王

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 comments:

Post a Comment