ทุกส่วนในบล็อกนี้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อุทิศแล้วเพื่อปวงชน. Powered by Blogger.
RSS

"จิตวิญญาณอำมตะแห่งดาวโลก" และการเกิดขึ้นของศาสนาที่มีพระเจ้า?

ฮาโหลๆ เพื่อนๆ นี่ผมไปอ่านเรื่อง ของโธท แห่งแอตแลนติสมา แล้ว ก็คัมภีร์มรกตด้วย ก็เลยสงสัยแล้ว ก็สื่อสารถามท่านที่อยู่ในมิติที่สูงขึ้น ก็เลยได้คำตอบอะไรบางอย่างมาโม้ ให้ฟังกันอีกแล้วครับท่านผู้ชม เอาละ อย่าช้าเลย เรื่องของโธทและวิหาร ศักดิสิทธิ์แห่งแอตแลนติส รวมทั้งสิ่ง ที่เชื่อมโยงไปสู่การเกิดขึ้นของอียิปต์ อีกด้วย โอ้ว แม่เจ้า ลึกลับจริงๆ ครับ


ก่อนศาสนาที่มีพระเจ้าจะเกิดขึ้น ทำให้เกิดจิตวิญญาณอำมตะในโลก?


เอาละ ผมจะบอกท่านทั้งหลายว่าก่อนหน้าที่ดาวโลกจะมีศาสนาที่มีพระ เจ้าเกิดขึ้นนั้น โลกอาจมีอารยธรรมอยู่ แต่เรื่องราวทางธรรมของพวกเขา ยังไม่ได้มีรูปแบบเป็นศาสนาที่ชัดเจน มันยังเป็นเพียงความเชื่อเท่านั้นเอง แต่เขาก็เชื่อเหมือนๆ กันหมดครับ คือ เขามีความเชื่อในจิตวิญญาณ, ใน สิ่งศักดิสิทธิ์, สิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น, ภูติผี-เทพเจ้า ฯลฯ แต่พวกเขายังไม่ มีความรู้เรื่อง "ภพภูมิที่ชัดเจน" ว่าดาวโลกนี้มีภพภูมิอะไรบ้างและมีใคร ที่ดูแลเป็น "เจ้าแห่งภพภูมิหรือเจ้าสวรรค์ชั้นนั้นๆ" แต่พวกเขาหลายคนก็ มีฤทธิ์มาก จิตวิญญาณของพวกเขากล้าแกร่งมาก สามารถถอดออกจาก ร่างแล้วดำรงอยู่เป็นอำมตะได้ โดยทิ้งร่างเก่าที่สิ้นสภาพแล้ว ไปสู่ร่างใหม่ คือ ร่างมนุษย์คนอื่นๆ ได้ต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาเรียกสิ่งนี้ว่า "ชีวิตอำมตะ" ในแบบของพวกเขา ซึ่งพวกเขาจะไม่ไปไหนจากดาวโลกนี้ ดังนั้น เมื่อเขา ตายลงจึงไม่ไปเกิดยังสวรรค์ ไม่ใช่เกิดเป็นคนใหม่ในชาติภพใหม่ ทว่า ก็ ยังคงดำรงอยู่ในรูปนามแห่งจิตวิญญาณอำมตะนั้นดังเดิมครับพวกเขาไม่ ทราบว่านิพพานคืออะไร แน่นอนว่าจิตวิญญาณของพวกเขายังไม่นิพพาน และเป็นอำมตะอยู่ยังไม่ตาย ไม่เกิดสู่ภพใหม่ เขาอยู่ระหว่างภพสองภพที่ ไม่ใช่ทั้งโลกและสวรรค์ (ซึ่งไม่ใช่นรกด้วย) แล้วเขาก็เลือกหาร่างใหม่ๆ ของมนุษย์บนโลกไปเรื่อยๆ ทว่า พวกเขาไม่ใช่ซาตาน ไม่ใช่พวกมืดครับ ผมขอเรียกว่าเป็น "พลังคลาสสิค" ก็แล้วกัน ซึ่งมีหลายแบบ ถ้าพวกเขา ยอมตาย ก็จะเกิดใหม่ในภพสวรรค์ที่สูงมาก เป็นเทพต่างๆ เช่น สุริยเทพ, นารายณ์ ฯลฯ ได้เลยครับ ทว่า พวกเขาไม่ยอมตาย จึงมีจิตวิญญาณซึ่ง จรออกจากร่างก่อน ทิ้งร่างที่กำลังตายไปหาร่างใหม่เพื่อชีวิตอำมตะครับ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ "โธท" ผู้สื่อบอกคัมภีร์มรกต แห่งแอตแลนติสด้วยครับ


จิตวิญญาณอำมตะในโลก ทำให้ต้องมีศาสนาที่มีพระเจ้าเกิดขึ้น?


ต่อไป คำถามคือ ทำไมจึงต้องมีศาสนาที่มีพระเจ้าเกิดขึ้นในโลก? เพราะว่าโลกของเรามี "เจ้าสวรรค์แห่งโลกสวรรค์ทั้งหกชั้น" อยู่ แล้ว แต่พระเจ้าในศาสนาต่างๆ "ท่านประจำอยู่ต่างดาว" เหตุผล ทำไมเราไม่เอาแต่เจ้าแห่งสวรรค์ของโลก ก็พอ ทำไมต้องให้มีเจ้า แห่งดาวอื่นมาสร้างศาสนานั้นๆ ด้วย? (พระเจ้า) คำตอบก็คือด้วย มีมนุษย์โบราณในโลกนี้ ที่มี "ระดับของจิตวิญญาณขั้นสูง" สูงไป เกินกว่าศาสนาในยุคนั้นจะรองรับได้ ถ้าพวกเขาตายลงจะไปเกิดใน มิติที่สูงกว่าสวรรค์ทั้งหกชั้นของโลก คือ ไปพรหมโลกธาตุบ้าง, ไป สุขาวดีโลกธาตุบ้าง ฯลฯ เรียกว่าไปนอกโลก ไปดาวอื่น นั่นเอง ทว่า ในยุคนั้น ศาสนาบนโลกไม่มีเรื่องราวเหล่านี้ พวกเขามีจิตวิญญาณ ที่สูงเกินไปกว่าศาสนาจะบอกทางแก่เขา อีกทั้งพวกเขายังมีฤทธิ์ทำ ให้ดำรงอยู่อย่าง "จิตวิญญาณอำมตะ" บนดาวโลกนี้ได้อีก ทำให้ใน ที่สุด ศาสนาที่เล่าเรื่องราวของพระเจ้าแห่งดาวอื่นที่สูงขึ้นกว่าโลกนี้ จำต้องลงมาบอกเรื่องราวแก่พวกเขา เพื่อรองรับพวกเขาไปจากโลก ไปยังที่ๆ พวกเขาควรจะไป ไม่ใช่ค้างคาอยู่บนโลกอย่างนี้ตลอดไป!


จิตวิญญาณอำมตะเหล่านั้นจำต้องผ่านการตายก่อน จึงไปสู่ภพใหม่ได้


ต่อไป คือ จิตวิญญาณเหล่านี้ เริ่มจากความต้องการมีอำนาจเหนือความ ตาย จึงได้ฝึกวิชาฤทธิ์ขั้นสูง ให้ไม่ต้องตาย คือ ร่างกายเนื้อเน่าตายไป แต่จิตวิญญาณของพวกเขายังไม่ตาย? อ้าวเป็นไปได้ยังไง ร่างตายแต่ จิตวิญญาณไม่ตาย? โธ่ ไม่ยากเลย พอใกล้ตายใช่มั้ย พวกเขาก็จะทำ การถอดจิตวิญญาณออกจากร่าง ทำให้จิตวิญญาณของพวกเขาไม่ถูก สลาย ไม่ตาย ไม่เกิดใหม่ ยังคงเดิม ความทรงจำ, สัญญาขันธ์ ก็ไม่ถูก ล้างลบออกไป ยังยึดติดอยู่กับเรื่องเดิม เช่น เป็นคนยุคแอตแลนติส ก็จะ ยึดติดและจดจำเรื่องเดิมๆ นั้น แท้จริงแล้ว "ความตายคือประตูเปิดสู่มิติ ใหม่" ทำให้พวกเขาได้ชีวิตใหม่ เริ่มต้นใหม่ อย่างเหมาะสม จะได้ไม่ไป จดจำอดีตเดิมๆ มากเกินไป นั่นคือ "หน้าที่ของความตาย" แต่พวกเขา ไม่ยอมตาย ไม่ยอมผ่านกระบวนการตาย จิตวิญญาณของพวกเขาถอด ออกจากร่างโดยไม่ผ่านการตาย แล้วสามารถประสานเข้าร่างมนุษย์คน ใหม่ๆ ได้เรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้พวกเขาดำรงอยู่ได้ด้วยวิธีแบบนี้เอง พวกเขาจึงกลายเป็น "จิตวิญญาณอำมตะประจำดาวโลก" ที่ผมเรียก ว่า "กลุ่มพลังคลาสสิค" ไม่ใช่ทั้งภาคมืด และภาคสว่างอย่างแท้จริง ก็ ถ้าเขาจะเป็นภาคสว่างอย่างแท้จริง พวกเขาต้องยอมรับความตาย ต้อง ตายก่อนเพื่อเกิดใหม่ในภพสวรรค์ ไปพบพระเจ้าประจำสวรรค์นั้นๆ แล้ว (หรือเจ้าสวรรค์ชั้นนั้นๆ) จึงค่อย "รับกิจจากเจ้าสวรรค์" ลงมาทำกิจยัง โลก ถึงจะถูกตามกฏสวรรค์นะครับ แต่พวกเขา ตัดสินใจเลือกชีวิตอำมตะ ในแบบของพวกเขาเองทำให้ไม่ผ่าน "เจ้าสวรรค์ชั้นใดๆ" รับรองเลยครับ


"การชำระล้างและการสร้างใหม่" ช่วยให้จิตวิญญาณอำมตะหลุดพ้น


ต่อไป จิตวิญญาณอำมตะที่ตกค้างอยู่ในดาวโลกเหล่านี้ จะได้รับการ ชำระล้างและสร้างใหม่ ซึ่งต้องการกระบวนการตายในร่างของมนุษย์ พวกเขาก็จะกลายเป็นชีวิตใหม่ที่พร้อมไปสู่ภพภูมิใหม่แล้วครับ นี่คือ วิธีการปลดปล่อยพวกเขาให้หลุดพ้นไปจากพันธนาการของดาวโลก ดวงนี้ ไปสู่ดวงดาวที่เขาควรจะไป ไปสู่อ้อมกอดแห่งพระเจ้าที่แท้จริง เพราะพวกเขายังไม่ถึงวาระที่จะนิพพาน พวกเขาก็ยังต้องไปสู่พระเจ้า และจะได้รับ "ชีวิตนิรันด์" ที่ถูกต้องเสียทีครับ ดังนั้น จึงต้องมีร่างของ มนุษย์ที่จะรองรับ "จิตวิญญาณอำมตะ" เหล่านี้ เช่น จิตวิญญาณโธท ผู้รจนาคัมภีร์มรกต แล้วสลายจิตวิญญาณเขา เพื่อให้เขาผ่านการตาย ให้ได้เกิดใหม่ (สร้างใหม่) ก็จะสำเร็จได้ครับ ในกระบวนการสร้างใหม่ หรือการเกิดใหม่ของจิตวิญญาณอำมตะแห่งดาวโลกเหล่านี้ พวกเขาก็ จะได้รับ "พระวิญญาณศักดิสิทธิ์" นี้ด้วยครับ เพื่อให้เขากลายเป็นชีวิต ใหม่อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจิตวิญญาณอำมตะที่อยู่ในดาวโลกเหล่านี้ มีมาก มายครับ ตกค้างอยู่เยอะทีเดียวแม้ว่าพวกเขาไม่ใช่ภาคมืดก็ตามนะครับ เช่น พวกเขาอาจเคยเป็นฤษี ที่มีฤทธิ์มาก มีพลังจิตมาก พอตายแล้วเขา อาจยึดมั่นในตำรา, ของขลัง, ถ้ำ, สมบัติอะไรๆ ก็แล้วแต่ ฯลฯ พวกเขา ก็จะตกค้างเป็นจิตวิญญาณอำมตะที่ยังไม่ผ่านการตาย ก็ดี หรือผ่านการ ตายแล้วแต่ไม่ยอมจุติเคลื่อนไปยังภพภูมิที่ถูกต้อง ก็ดีครับ เมื่อพระพุทธ ศาสนานำปัญญาที่แท้จริงมาสู่โลกแล้ว มีพระโพธิสัตว์ลงมาโปรดสัตว์ก็ มากมาย เราก็สามารถนำทางจิตวิญญาณเหล่านี้ได้ครับเพื่อเคลื่อนย้าย "จิตวิญญาณ" ที่ตกค้างของพวกเขาไปยังภพภูมิที่ถูกต้องเสียที ทว่านี่ ไม่ใช่งานที่ง่ายนักนะครับ เพราะเราจำจะต้องมีอำนาจจิตที่เหนือกว่าเขา จึงจะทำให้จิตวิญญาณเหล่านี้ ยอมเชื่อ, ไววางใจ และให้เรานำทางได้


จิตวิญญาณอำมตะเหล่านี้ บ้างก็มีอายุมากกว่าลูซิเฟอร์เสียอีก?


ต่อไป เมื่อพระเจ้าทรงทราบเรื่องของจิตวิญญาณอำมตะบนดาว โลกนี้แล้ว ท่านจึงปล่อยให้ลูซิเฟอร์ก่อเรื่องราวบนสวรรค์ครับ ก็ พระเจ้าทรงรู้ทุกสิ่ง การที่จะห้าม หรือขัดขวางลูซิเฟอร์ ก่อนเขา จะทำอะไรลงไปนั้น "ก็ย่อมได้แน่นอนครับ" ทว่า ท่านก็ปล่อยไป ตามธรรมชาติ แล้วลูซิเฟอร์ก็ทำผิดกฏสวรรค์ ไม่ยอมรับทัณฑ์ก็ หนีลงมายังโลก นั่นคือแผนการณ์ของพระเจ้าที่จะให้เทพสวรรค์ ลงมายังโลก เพื่อดึงเอาจิตวิญญาณอำมตะที่อยู่บนโลกยาวนาน เหล่านี้ ขึ้นไปเสียที (แล้วลูซิเฟอร์ก็อยู่บนโลกแทนที่ไป อย่างนั้น มังครับ?) เป็นการปรับเปลี่ยนพลังงานที่เก่าแก่มากๆ ของโลกให้ มีผู้รับช่วงต่อไป เป็นกลุ่มใหม่ นั่นเอง ดังนั้น จิตวิญญาณเก่าแก่ที่ อยู่มาก่อนลูซิเฟอร์นี้ จึงมีทั้งฤทธิ์เดชและความรู้มากกว่าลูซิเฟอร์ ซะอีกครับ อุปมาก็เหมือนพระเจ้าใช้ลูซิเฟอร์เป็นปลาเล็ก เพื่อล่อ ปลาใหญ่ (พวกจิตวิญญาณอำมตะในดาวโลก) มาติดกับ นั่นเอง


จิตวิญญาณในร่างกายเรามีหลายตัวตน ไปเกิดหรือเข้าร่างคนอื่นก็ได้?


ต่อไป คือ จิตวิญญาณในร่างกายของเรามีหลายตัวตน สามารถที่จะให้ บางตัวตนไปเกิดก่อนที่เราจะตาย ๑ ปี ก็ได้ เพื่อให้เขากลายเป็น "ตุลกู" หรือ "ร่างใหม่" รอไว้ล่วงหน้าก่อน ก็ได้ หรือจะให้ไปอยู่เป็นภูติประจำที่ ร่างสังขารอื่นๆ ก็ได้ เพื่อใช้ร่างนั้นทำหน้าที่บางอย่างแทนเรา เป็นต้น นี่ คือ วิชาที่โธทเอง ก็บอกไว้ในคัมภีร์มรกต ทว่า เมื่อเราปล่อยจิตวิญญาณ หนึ่งดวงออกจากร่างไปอยู่ในร่างอื่นแล้ว พลังปราณภายในร่างเราจะลด ลง ทำให้สุขภาพแย่ลงหรือป่วยได้ ดังนั้น เราต้องทำการเสริมพลังปราณ ภายในให้กลับคืนมาเท่าเดิม ด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งไม่ได้มีบอกไว้ในคัมภีร์ มรกต แต่ท่านอาจค้นพบในตำราอื่นๆ นี่คือ สิ่งที่ต้องทำ ต้องมีคู่กัน เพราะ การ "ถ่ายทอดจิตวิญญาณสู่ร่างผู้อื่น" ก็อาจทำให้อายุขัยท่านลดลง จน ถึงขั้นตายได้ในเวลาไม่นาน ถ้าท่านต้องการยืดอายุขัยของท่าน ก็ต้องไป รับเอา "จิตวิญญาณที่ตกค้างในโลก" มาเสริมร่างกายท่านต่อไป ซึ่งหาก ท่านไปรับเอาจิตวิญญาณมนุษย์มา ท่านก็จะทำร้ายมนุษย์คนนั้นให้มีอายุ ขัยสั้นลง จนอาจถึงแก่ความตายได้ (ผลไม่ต่างจากมหาเวทย์ดูดดาว) นี่ จึงเป็นเหตุให้ท่านควรใช้จิตวิญญาณที่ไม่ใช่มนุษย์ และเมื่อท่านได้เสริม อายุขัยตัวเองด้วยจิตวิญญาณที่ไม่ใช่มนุษย์แล้ว ท่านก็จะอยู่ในสภาพกึ่ง คนกึ่งปีศาจ ดังนั้น ท่านต้องทำการชำระล้างจิตวิญญาณนั้นๆ ให้เกิดใหม่ อีกด้วย จึงจะทำให้จิตวิญญาณดวงนั้นกลายเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และทำ ให้ท่านกลายเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์อีกครั้งหนึ่งได้ โฮ่ วิธีการยาวจริงๆ ครับ (วิธีการส่วนหลังนี้ ในคัมภัร์มรกต ก็ไม่มีบอกไว้นะครับ มีอยู่ในที่อื่นอีกที)


เมื่อท่านมีอายุยืนยาวแล้ว ก็ควรไม่แก่ และมีเงินใช้ด้วยนะคร้าบ...


สุดท้าย เมื่อท่านสำเร็จวิชาต่ออายุขัยด้วยการเสริมด้วยจิตวิญญาณ ดังกล่าวแล้ว ได้ความเป็นมนุษย์สมบูรณ์แล้ว ก็ยังมีปัญหาอีกว่าแล้ว เมื่ออายุมากๆ ไม่แก่แย่หรือ? ดังนั้น ท่านจำต้องฝึกวิชาอำมฤติอีกนะ คือ วิชาที่ทำให้ร่างกายไม่แก่เฒ่า เหมือนเราหยุดอายุตัวเองไว้ ไม่มี มากไปกว่านั้นได้ หรือเคลื่อนวนย้อนกลับมาสู่ความเป็นเด็กอีกครั้ง ก็ ยังได้ นั่นแหละ ทีนี้ พอไม่แก่ ไม่ตายแล้ว ก็ต้องมีเงินใช้ ใช่ไหมครับ? เพราะถ้าอยู่ไปนานๆ บนโลกแบบไม่มีเงินใช้ แถมต้องทำงานหนักไป ตลอดชีวิต ก็สู้ตายๆ ไปซะดีกว่า ฮ่าๆๆๆ ขึ้นสวรรค์ดีกว่าใช่มั้ยละครับ ถ้าจะอยู่นานๆ บนโลก ก็ต้อง "มีเงินใช้ด้วย" ซึ่งผมแนะนำพลังไซย่า ให้คุณ เพราะมันเป็นพลังที่ทำให้คุณมีเงินใช้ โดยไม่ต้องทำงานอะไร มากมาย ถ้ามีเงินใช้เพราะทำงานหนักทั้งวัน อันนี้ ตายไปสวรรค์ดีกว่า คุณว่ามั้ยละครับ? เอาละ ที่ผมบอกมาทั้งหมดนี้ เหมาะกะคนบางคนที่ น้อยมากๆ ที่สมควรอยู่บนโลกนี้นานๆ โดยไม่กระทบโลกนักเท่านั้นเอง คนที่อยู่นานๆ แล้วสร้างผลกระทบโลกมาก ก็อย่าอยู่นานเลย ตายๆ ไป ซะเหอะ ว่ะ ฮ่าๆๆๆ (อย่ามีทัศนคติเชิงลบกับความตายละเดี๋ยวจะกลาย เป็นจิตวิญญาณอำมตะประจำดาวโลก ไม่ได้ไปเกิดในภพภูมิใหม่ซะที)


จบได้แย้ววววว ...


13 ต.ค. 2555

"เสียงจากจิตอำมตะ"
รับสื่อสารโดย

瑠璃王

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 comments:

Post a Comment